เช็กด่วน!เชียงใหม่จัดโซนสีแดง 5 อำเภอ งดเดินทางเข้าพื้นที่
เชียงใหม่ยอดรวมติดโควิดพุ่ง 1,733 ราย จัดโซนพื้นที่สีแดงขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางเข้าหากไม่มีเหตุจำเป็น
วันนี้ ( 15 เม.ย. 64 )สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 272 ราย รวมผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 1,733 ราย
ด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้เพิ่มมาตรการในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ต่างๆ จะต้องจัดพนักงานดูแลให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการ ห้ามลูกค้าตักอาหารมารับประทานเอง
นอกจากนี้ได้ออกคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ให้ลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เหลือเพียง 50 คนเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่จำเป็นสามารถยื่นขอพิจารณาอนุมัติ กับทางคณะกรรมการโรคติดต่อในระดับอำเภอ เป็นรายๆ ไป รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้งดการพบปะสังสรรค์ และเดินทางเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมโรคให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ยังได้พิจารณาให้ส่วนราชการต่างๆ แบ่งสัดส่วนเจ้าหน้าที่ทำงานในสำนักงาน และทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from home เพื่อลดความแออัด โดยหน่วยงานที่ให้บริการประชาชน จะต้องจัดเจ้าหน้าที่มาทำงานให้เพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ พร้อมเชิญชวนให้บริษัท ห้างร้านต่างๆ พิจารณานโยบาย Work from home เพื่อป้องกันแ ละลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะนี้ด้วย
ด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดทำแผนที่แสดงการระบาดโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ระลอกเดือนเมษายน โดยแบ่งตามภูมิลำเนาของผู้ป่วย
1.โซนสีแดง มีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 50 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย หางดง สารภี และสันกำแพง
2.โซนสีส้ม ซึ่งมีป่วยผู้ติดเชื้อจำนวน 11-50 ราย ได้แก่ อำเภอแม่ริม ดอยสะเก็ด สันป่าตอง และดอยหล่อ
3.โซนสีเหลืองซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอที่พบผู้ป่วยจำนวนน้อยกว่าสิบคน ได้แก่ อำเภอแม่ออน เวียงแหง เชียงดาว ไชยปราการ พร้าว สะเมิง แม่ออน จอมทอง แม่วาง ฮอด ดอยเต่า และอมก๋อย
4.โซนสีขาว คือยังไม่พบผู้ป่วย ได้แก่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา (ข้อมูล ณ วันที่ 15 เมษายน 2564)
การแบ่งพื้นที่การแพร่ระบาด เพื่อขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง
ส่วนที่งดการจัดกิจกรรมที่เกิน 50 คน เพื่อไม่ให้มีการปาร์ตี้ สังสรรค์ เพราะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยจังหวัดได้เสนอสโลแกนเพื่อขอความร่วมมือชาวเชียงใหม่ "เชียงใหม่ร่วมใจ งดสังสรรค์ ต้านภัยโควิด" เพื่อให้ในช่วง 2 สัปดาห์นี้จะได้ควบคุม และหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ เพราะตอนนี้เกิดการแพร่ระบาดในระดับครัวเรือนแล้วร้อยละ 5 - 6
สำหรับหอผู้ป่วยโรงพยาบาลสนามเป็นระบบปิดไม่สามารถให้คนนอกเข้าไปได้ และหากแพทย์จะเข้าไปต้องสวมใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันตัวเอง โดยให้ผู้ป่วยทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิ วัดความดันด้วยตัวเอง และรายงานผลผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้การอยู่ในโรงพยาบาลสนามอาจจะไม่สะดวกสะบายมากนัก แต่จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ทั้งระบบระบายอากาศ และอินเตอร์เน็ตไวไฟ เพื่ออำนวยความสะดวก และลดความตึงเครียดในระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาน
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงการให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย หากมีอาการแทรกซ้อน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ ทีมแพทย์สามารถช่วยเหลือได้ทันที ถึงแม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ แต่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด