"สหรัฐ" ยอดตายทะลุ 20,000 แซง "อิตาลี" ขึ้นอันดับหนึ่ง
ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ พุ่งแซงหน้าอิตาลี หลังยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 20,389 คน เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก
วันนี้ (12 เม.ย.63) สหรัฐขึ้นแท่นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 มากที่สุดในโลกแล้ว หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 20,389 คน แซงหน้าอิตาลีไปเรียบร้อย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ที่เก็บสถิติผู้เสียชีวิตและติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก โดยอิตาลี ซึ่งครองอันดับ 1 ประเทศผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกนานสัปดาห์ จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19,468 คน ส่วนสเปนเป็นอันดับ 3 จำนวน 16,480 คน
สหรัฐแซงหน้าอิตาลีหลังจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกต่อเนื่องสูงในแต่ละวันประมาณ 2,000 คน ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา จนในที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในวันเดียว ส่วนผู้ติดเชื้อในสหรัฐ อยู่ที่ 524,903 คน มากที่สุดในโลกเช่นกัน
“บิ๊ก แอปเปิล” (Big Apple) หรือรัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสรุนแรงที่สุดในสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตในรัฐนี้รัฐเดียว สูงถึง 8,627 คน
อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ก็เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในการระบาดในนิวยอร์ก เมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของสหรัฐ โดยบอกว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียู ยังคงลงลดต่อเนื่อง
อัตราการเสียชีวิต คิดจากผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 100 คน ต่อประชากร 100,000 คน สำหรับในสหรัฐถือว่าต่ำกว่าในอิตาลี, สเปน และอีกหลายชาติ เนื่องจากมีประชากรกว่า 328 ล้านคน มากกว่าอิตาลีถึง 5 เท่า และมากกว่าสเปนเกือบ 7 เท่า
สถิติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐอยู่ในอันดับที่ 9 ในโลกในแง่ของอัตราส่วนผู้ติดเชื้อเทียบกับการเสียชีวิต และอยู่อันดับ 7 เมื่อเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คน ขณะที่ อิตาลีมีอัตราส่วนการเสียชีวิตเลวร้ายที่สุด คิดเป็น 12.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสเปนถือว่ามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับประชากร 100,000 คน อยู่ที่ 34.42 เปอร์เซ็นต์
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือดีเอชเอส (DHS) และสำนักงานบริการสุขภาพและมนุษย์ หรือเอชเอชเอส (HHS) เตือนเมื่อวันศุกร์ว่า จะมีชาวอเมริกันประมาณ 200,000 คนเสียชีวิตหากมีการยกเลิกคำสั่ง stay-at-home ในประเทศหลังจากบังคับใช้มา 30 วัน
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
