"สุริยะ" ชี้​แบน 3 สารเคมี ต้องไม่กระทบส่งออก-นำเข้า

เมื่อช่วงบ่าย วันนี้ (26 พ.ย.62) ที่กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรกร สนับสนุนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้อง ต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งอธิบดีกรมโรงงานในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตรายเป็นผู้ลงมารับหนังสือ ขอให้เลื่อนหรือยุติการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

หลังกลุ่มเกษตรกรยื่นหนังสือต่อที่อธิบดีกรมโรงงานฯ​ เสร็จแล้ว​ จึงเดินทางแยกย้ายกลับ โดยจะกลับมาฟังผลการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่กระทรวงอุตสาหกรรมต่อในวันพรุ่งนี้

จากนั้น นายสุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม​ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย​ ได้เดินทางกลับมาจากทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ​ ยืนยันพรุ่งนี้​ ตนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย​ ชุดใหม่ ด้วยตัวเอง โดยมีวาระการพิจารณาเลื่อน​ หรือไม่เลื่อนการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิดด้วย​ ซึ่งต้องฟังข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรเป็นหลัก​ เพราะเป็นหน่วยงานที่รู้ดีว่าจะมีผลกระทบอย่างไร​ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย​ ทั้งฝ่ายที่ต้องการใช้สารเคมี​ และฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการใช้สารเคมี​ โดยจะนำความคิดเห็นทั้งสองฝ่ายมาพิจารณาหาทางออกร่วมกัน​ ซึ่งพรุ่งนี้ยืนยันว่าจะได้คำตอบจากที่ประชุมอย่างแน่นอนว่า​ จะเลื่อนหรือไม่เลือน​ การแบนสารสารเคมี​ จากเดิมที่จะแบน​ วันที่​ 1​ ธันวาคมนี้​

นายสุริยะ​ มองว่า หากแบนแล้ว​ต้องไม่กระทบการส่งออก​ นำเข้า​ ก็พร้อมที่จะแบนในวันที่ 1 ธันวาคมเหมือนเดิม​ แต่หากมีผลกระทบมาก ก็อาจต้องทบทวน โดย​กลุ่มเกษตรกร และเครือข่าย ที่มากระทรวงอุตสหกรรมในวันนี้​ ระบุหากมีการแบนสารเคมี​ ก็จะไม่สามารถนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวสาลี​ จากต่างประเทศได้​ ซึ่งจะกระทบอุตสาหกรรมต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์ หรือผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

โดย นายสุริยะ ระบุอีกว่า การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันพรุ่งนี้ตนไม่มีการพูดคุยหารือกับ นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่แสดงจุดยืนมาก่อนหน้านี้ ว่าอยากให้ชะลอแบนสารเคมี แต่อย่างใด​

สำหรับการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ที่ตึกสำนักปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเกษตรกรและเครือข่าย ระบุว่า ไม่เห็นด้วยต่อมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่22 ตุลาคม 2562 เนื่องจากไม่ได้มีการพิจารณาข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใหม่และไม่ได้มีการพิจาณาถึงผลกระทบของเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศ และพบว่า การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ต่อร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชี รายชื่อวัตถุอันตรายประเภทที่4 เมื่อวันที่8 พฤศจิกายน 2562 มีผู้ไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกการใช้สารทั้ง3 ชนิด มากถึงร้อยละ70 โดยการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีฯ อย่างรีบเร่ง ไม่มีมาตรการรองรับ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2560 มาตรา 73 เนื่องจากการยกเลิก ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรจำนวนมาก กว่า 2 ล้านครัวเรือน ไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ จากการที่ผลผลิตในประเทศลดลง ร้อยละ 20 - ร้อยละ 30 ในขณะที่ต้นทุนเกษตรกรเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขผลกระทบดังกล่าวข้างต้น สาคมคนไทยธรุกิจเกษตร สมาคมอารักพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ ยุติการยกเลิกสรทั้ง 3 ชนิด จนกว่าจะมีผลกศึกษาทบทวนข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างถี่ถ้วน รอบด้าน และเปิดเผยให้ประชาชน รับทราบผลการศึกษาอย่างชันเจน ให้บังคับใช้ มาตราการจำกัดการใช้ ตามประกาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้มีการอบรม​ ผู้ฉีดพ่น​ และผู้ขาย​ ในระหว่างที่มีการศึกษาทบทวน เพื่อส่งเสริมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย

สำหรับ รายชื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ที่จะมีการประชุมชี้ชะตาในวันพรุ่งนี้ มีทั้งหมด 27 ราย จาก 29 ราย ตามพระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ.2562 ประกอบไปด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ อย. ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้ทรงคุณวุฒิ 8 ท่าน ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และอธิบดีกรมศุลกากร

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand