ฝนทิ้งช่วงนาน! ชลประทานเลยลดระบายน้ำ หวั่นไม่พอใช้

'ชลประทานเลย' แจ้งปรับลดการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำเหลือวันละ 100,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้มีน้ำใช้ถึงมิ.ย.ปีหน้า

วันนี้( 16 พ.ย.62) จากปัญหาฝนทิ้งช่วงยาวนานในจังหวัดเลย ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อยลง และเริ่มส่งผลต่อแหล่งน้ำดิบหล่อเลี้ยงประชาชนในหลายพื้นที่ ล่าสุดนายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเลย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ณ ขณะนี้ ทางโครงการชลประทานเลย จึงขอประกาศว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะลดการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำเลย จากเดิมวันละ 130,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือวันละ 100,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อต่ออายุการใช้น้ำให้ได้ถึงช่วงเดือนมิ.ย.ปีหน้า นอกจากนี้ยังพบว่าอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดเลยทั้ง 14 แห่ง มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 31 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง

นายเกรียงไกร กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ทางชลประทานระบายน้ำ เพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศ ผลิตน้ำประปาและทำการเกษตรบ้าง คาดว่า ฝนอาจจะไม่ตกตามฤดูกาลและอาจจะทิ้งช่วง จึงต้องให้ทุกคนในจังหวัดช่วยกันประหยัดน้ำ

ฝนทิ้งช่วงนาน! ชลประทานเลยลดระบายน้ำ หวั่นไม่พอใช้

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา ภัยแล้งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวนา โดยเฉพาะที่อำเภอโนนไทย ขาดแคลนแหล่งน้ำใช้ในการเพาะปลูกทำให้ต้นข้าวหยุดการเจริญเติบโต ผลผลิตได้รับความเสียหาย

นายบุญส่ง เตยจอหอ ชาวนาบ้านม่วงหนองแต้ ตำบลโนนไทย บอกว่า ได้ปลูกข้าวจำนวน 11 ไร่ เป็นเงินลงทุนกว่า 30,000 บาท แต่ช่วงนี้ต้นข้าวหยุดการเจริญเติบโต เมล็ดข้าวลีบ แถมยังมีวัชพืชปกคลุมต้นข้าว เนื่องจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย ตนต้องเกี่ยวข้าวเองเพราะถ้าจ้างรถเกี่ยวข้าวก็จะไม่คุ้มทุน ซึ่งเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตข้าวเพียงไร่ละ 1 กระสอบ เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา จะได้ข้าวเปลือกไร่ละ 5-6 กระสอบ ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูง เงินลงทุนที่กู้ยืมเพื่อนบ้านมาทำนาปลูกข้าว ก็ยังไม่มีจ่าย ได้รับความเดือดร้อนหนัก ถึงแม้ทางภาครัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาผู้ประสบภัยแล้งบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะใช้หนี้