สะพรึง! โควิดสายพันธุ์อินเดีย ระบาดไปแล้วเกือบ 50 ประเทศ

วันนี้( 12 พ.ค.64) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุในว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียที่มีชื่อเรียกว่า “B.1.617” ถูกตรวจพบในตัวอย่างกว่า 4,500 ตัวอย่างที่เก็บมาจาก 44 ประเทศที่เป็นสมาชิกของ WHO ในทั้ง 6 ทวีปทั่วโลก ซึ่งรายงานความคืบหน้าล่าสุด ในรายงานระบาดวิทยารายสัปดาห์ด้วยว่า เพิ่งได้รับรายงานตรวจพบโควิดกลายพันธุ์อินเดียเพิ่มอีก 5 ประเทศ รวมประเทศที่พบโควิดกลายพันธุ์ทั่วโลกล่าสุด 49 ประเทศ โดยอังกฤษเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียมากที่สุด นอกเหนือจากอินเดีย

ในสัปดาห์นี้ WHO เพิ่งประกาศให้โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียเป็นสายพันธุ์ที่ “น่ากังวล” ในระดับโลก นับเป็นโควิดกลายพันธุ์ตัวที่ 4 ที่อยู่ในรายชื่อโควิดกลายพันธุ์ที่น่ากังวลในระดับโลกของ WHO เพิ่มจากอีก 3 ตัวคือ โควิดกลายพันธุ์อังกฤษ กลายพันธุ์บราซิลและกลายพันธุ์แอฟริกาใต้

WHO ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เพิ่มโควิดกลายพันธุ์อินเดียลงในรายชื่อโควิดกลายพันธุ์ที่น่ากังวลในระดับโลก เนื่องจากโควิดกลายพันธุ์อินเดียติดต่อได้ง่ายกว่าโควิดดั้งเดิมมาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้โควิดกลับมาระบาดใหม่อย่างรวดเร็วในหลายประเทศ

ทั้งนี้ โควิดกลายพันธุ์อินเดีย หรือ B.1.617 พบครั้งแรกในอินเดียในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีอันตรายมากกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม เนื่องจากติดต่อได้ง่ายกว่าทำให้เสียชีวิตได้มากกว่าและสามารถหลบเลี่ยงการคุ้มครองจากวัคซีนต้านโควิดได้

โดย WHO พบหลักฐานในเบื้องต้นว่า โควิดกลายพันธุ์อินเดียต่อต้านการรักษาด้วยยาแอนติบอดี้ “แบมลานิวิแมบ” (bamlanivimab) โดยผลการศึกษาในห้องแล็บเบื้องต้น พบว่า โควิดกลายพันธุ์อินเดียลดประสิทธิภาพของยาแอนติบอดี้ดังกล่าวลง แต่ลดลงในระดับที่จำกัด อย่างไรก็ตามย้ำว่า โควิดสายพันธุ์อินเดียมีผลกระทบอย่างจำกัดต่อประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิดในการนำมาใช้จริง 

อย่างไรก็ตาม WHO ชี้แจงด้วยว่า การระบาดของ B.1617 คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การระบาดของโควิดรอบ 2 ในอินเดียรวดเร็วและรุนแรงมาก จนยอดผู้เสียชีวิตในอินเดียและติดเชื้อโควิดในอินเดียพุ่งสูงทุบสถิติโลกหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่า โควิดกลายพันธุ์ตัวอื่นๆรวมถึงกลายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 ซึ่งสามารถติดต่อและระบาดได้รวดเร็วเช่นเดียวกับโควิดกลายพันธุ์อินเดียก็พบการระบาดในอินเดียด้วยเช่นกัน