‘อนุทิน’เผยสั่งหาสาเหตุแพ้วัคซีนจนเป็นอัมพฤกษ์ 6 ราย

วันนี้ ( 21 เม.ย. 64 )นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานประชุมทางไกลกับ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพสสจ. และประธานชมรม อสม. ทุกจังหวัดเรื่องการจัดกิจกรรม "หลังสงกรานต์ คนอยู่บ้านต้องปลอดภัยและเชิญชวนคนไทยฉีดวัคซีนช่วยชาติ"

 

ทั้งนี้นายอนุทิน ได้กล่าวก่อนเข้าประชุมถึงประเด็นที่มีผู้พบอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนของ Sinovac และเกิดอัมพฤกษ์ขึ้นที่จังหวัดระยอง ว่าในขณะนี้. คณะกรรมการวิชาการที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยการใช้วัคซีนที่มี พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ เป็นประธาน จะมีการหารือกัน และจะมีการแถลงอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากที่ผ่านมานั้นมีข้อสรุปในหลายสมมติฐาน จึงจำเป็นที่จะต้องเห็นพ้องต้องกัน และสรุปให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 

 

อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนนั้นมักจะมีอาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ขอให้การยืนยันว่า เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าสังเกตอาการ ซึ่งหากมีอาการไม่พึงประสงค์ ก็จะต้องได้รับการรักษาเป็นรายๆ ไป ซึ่งส่วนใหญ่นั้น ก็ไม่ได้มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับตนเองที่ฉีดวัคซีนของซิโนแวคไปแล้วถึง 2 เข็ม แต่ก็ไม่มีอาการไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะต่อผู้ที่มีการตอบสนองต่อยาที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนที่มีอาการไม่พึงประสงค์ ก็สามารถรักษาให้กลับมาได้ แต่คงจะต้องระวังมากขึ้น

 

นับจากนี้ ส่วนการตัดสินใจว่าจะใช้ต่อหรือไม่ อาจจะต้องรอหรือได้รับการเสนอจากทางคณะกรรมการวิชาการที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยการใช้วัคซีนเสียก่อน เพราะรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ แต่ในเบื้องต้นนั้น ได้มีการสั่งการให้ดูแลและสังเกตอาการมากเป็นพิเศษ และให้เตรียมพร้อมในส่วนของการช่วยเหลือถ้ามีเหตุการณ์หรือผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น

 

ส่วนประเด็นการจัดหาวัคซีนอื่นๆ เพิ่มนั้น ในขณะนี้นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนทุกชนิดที่มีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แต่ไม่ได้มีการระบุยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรีมีความเป็นกังวล และมีการสั่งการให้สั่งวัคซีนเผื่อไว้แล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เร่งจัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุด 

 

โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ ก็ไม่ได้ระบุว่า จะมีการส่งวัคซีนให้ได้เมื่อไหร่ จนกระทั่งประเทศไทย ได้มีการจัดหาวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าได้จำนวน 60 ล้านโดส จึงทำให้ผู้จำหน่ายวัคซีนเจ้าอื่นๆ ได้เริ่มมีการติดต่อเข้ามา  แต่ก็ยังมีข้อแม้ในส่วนของการส่งวัคซีน ที่จะสามารถส่งได้เร็วสุดในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 เพียงเท่านั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความล่าช้าในการจัดหา เพราะเรามีความพร้อมทั้งในเรื่องของจำนวนเงิน แต่เป็นในเรื่องของเทคนิค เช่น เจ้าอื่นนั้น สามารถฉีดให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป หรือต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิลบ 70 องศา หรือพร้อมที่จะนำส่งวัคซีนให้กับไทยในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งก็ถือว่าช้าเกินไป ยืนยันว่าวัคซีนในขณะนี้ เริ่มมีการสั่งซื้อไปแล้ว 60 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนของ astrazeneca จำนวน 60 ล้านโดสนั้น ในสัญญาระบุว่า พร้อมที่จะจัดส่งให้วันที่ 1 มิถุนายน โดยเป็นการเซ็นสัญญาตั้งแต่ตุลาคมปี 2563 ซึ่งถือว่ายังคงเป็นไปตามสัญญา ไม่ได้มีการล่าช้าแต่อย่างใด 

 

ส่วนวัคซีน ซิโนแวค อีกจำนวน 1 ล้านโดสนั้น กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มีนโยบายชัดเจนแล้ว ว่าต้องนำไปฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์ให้ครบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน ดังนั้นการฉีดวัคซีน จึงเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทุกอย่าง ยืนยันว่าในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการพูดคุยกับผู้ผลิตวัคซีนทั้งไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และตัวแทนวัคซีนสปุ๊กนิค ซึ่งหากผู้ผลิตวัคซีนเจ้าอื่นๆ สามารถส่งมอบได้รวดเร็ว มีความปลอดภัยกับประชาชน กระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมที่จะพิจารณาวัคซีนของเจ้าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าพร้อมที่จะซื้อวัคซีนทุกชนิด และไม่ได้เป็นการแทงม้าตัวเดียว