"เลบานอน" ประกาศล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์ หลังยอดป่วยโควิดพุ่ง

"เลบานอน" ประกาศล็อกดาวน์ประเทศนาน 2 สัปดาห์ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19พุ่งสูง

วันนี้( 17 ส.ค.63) สาธารณสุขเลบานอน ประกาศผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 439 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 6 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่า 6,364 คน และเสียชีวิต 106 คนแล้ว ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศ ทำให้ทางการเป็นกังวลว่าระบบสาธารณสุขจะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยรายใหม่ได้ไหว หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจากมากจากเหตุระเบิดรุนแรงที่ท่าเรือกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม หรือเกือบ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา และตามมาด้วยเหตุประท้วงขับไล่รัฐบาลอย่างรุนแรง ส่งผลให้การระบาดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุข ฮาหมัด ฮัซซัน แถลงว่า ได้ประกาศสถานการณ์เตือน และเลบานอนต้องมีการล็อกดาวน์ประเทศนาน 2 สัปดาห์ เพื่อยับยั้งการระบาดอย่างรุนแรงไปมากกว่านี้

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า เกือบ 30% ของผู้ติดเชื้อในเลบานอน ไม่สามารถหาต้นตอที่แน่ชัดได้ และเกือบทุกคนได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ราฟิก ฮาริริ ศูนย์กลางการรักษาโควิด-19 เนื่องจากเหตุระเบิดทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ รองรับผู้ป่วยแล้วมากกว่า 70% โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นต้องสร้างโรงพยาบาลสนาม แต่ต้องการการสนับสนุนด้านการเงินให้โรงพยาบาลต่างๆ และจะยังเป็นการดึงดูดไม่ให้แพทย์ในประเทศหลั่งไหลออกนอกประเทศได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่โรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก แต่ยังมีรายงานว่า เหตุระเบิดรุนแรงนั้นยังทำให้ "เด็ก ๆ" ชาวเลบานอนจำนวนหนึ่งมีอาการป่วยทางจิตใจ จากเหตุกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง โดยมีการยกตัวอย่างเด็กชายวัย 3 ขวบ ที่เผชิญเหตุระเบิด และหลังจากนั้น กลายเป็นเด็กไม่พูดไม่จาและแววตาเบิกโพลงเหมือนตกใจตลอดเวลา โดยเหตุระเบิดนั้น ทำให้เด็กกว่า 80,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย กว่า 1,000 คนบาดเจ็บ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดภาพเรือสำราญพลิกตะแคงก่อนจมลงทะเล หลังระเบิดเลบานอน

เผยภาพโรงพยาบาลพังยับ! จากแรงระเบิดในเลบานอน

นายกฯเลบานอน เผยต้นเหตุมหาวินาศกรุงเบรุต

เกาะติดข่าวที่นี่