TNN online ชาวเมียนมา 19 คนที่กลับจากไทยติดเชื้อ "โควิด"

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

ชาวเมียนมา 19 คนที่กลับจากไทยติดเชื้อ "โควิด"

ชาวเมียนมา 19 คนที่กลับจากไทยติดเชื้อ โควิด

ทางการเมียนมา สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนทั้งหมด หลังพบชาวเมียนมา 19 คนที่กลับจากจากไทยติดเชื้อโควิด-19

วันนี้( 20 มิ.ย.63)  กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา ระบุว่า เมียนมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 23 ราย เป็นแรงงานที่เดินทางกลับจากไทยและมาเลเซียผ่านด่านบริเวณชายแดนจังหวัดตากและระนอง รายงาน ระบุว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ 23 รายนั้น จำนวน 19 ราย เป็นแรงงานที่กลับจากไทยเดินทางผ่านด่านข้ามแดนจังหวัดตากไปยังฝั่งเมียวดี 18 รายและจังหวัดระนอง 1 ราย ส่วนอีก 4 รายกลับจากมาเลเซีย ขณะนี้ทั้ง 23 รายถูกกักกันโรคบริเวณค่ายกักกันเขตอุตสาหกรรมในเมืองพะอัน เมืองเอกของรัฐกะยีน ติดกับชายแดนไทยบริเวณจังหวัดตาก ก่อนจะเตรียมส่งไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลในนครย่างกุ้ง

นาย อูเท ซาเอ่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี สั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนเมียวดี ที่ดำเนินการคัดกรองชาวเมียนมาที่กลับไปจากประเทศไทย กักตัวเป็นเวลา 21 วัน ณ สถานที่กักตัวเมืองผาอ่าง รัฐกะเหรี่ยง 

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตอบโต้โรคติดไวรัสโควิด-19 พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่สาธารณสุขชายแดนไทย-เมียนมา โดยคณะได้พบกับ อสม.ในพื้นที่อำเภอแม่สอด และเดินทางไปที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา 2 ตำบลท่าสายลวด เพื่อดูระบบการคัดกรองคนไทยที่กลับมาจากประเทศเมียนมา ตามมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเข้า-ออกด่านพรมแดน 

นายสาธิต กล่าวยอมรับว่า ระบบภายในของด่านพรมแดนไทย-เมียนมาในการรับคนไทยกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้านดีอยู่แล้ว มีระบบมาตรการการป้องกันที่สมบูรณ์และที่ผ่านมาตัวเลขเป็นศูนย์ แต่ที่น่าห่วงมากที่สุด คือ ช่องทางธรรมชาติ หากมีการปล่อยให้หลุดมา 1 คน จะเกิดปัญหาได้เช่นกัน จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรงงานพม่าแห่กลับภูมิลำเนา วิตกโควิด-19 แพร่ระบาด

แรงงานพม่าแห่กลับภูมิลำเนา ก่อนถูกนำไปกักตัว 21 วันกันโควิด



เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง