TNN online เปิดข้อมูลหากคนไทยติด "โอมิครอน" ทั้งหมด จะต้องสูญเสียใครไปบ้าง

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

เปิดข้อมูลหากคนไทยติด "โอมิครอน" ทั้งหมด จะต้องสูญเสียใครไปบ้าง

เปิดข้อมูลหากคนไทยติด โอมิครอน ทั้งหมด จะต้องสูญเสียใครไปบ้าง

นักวิชาการเปิดข้อมูลหากคนไทยติด "โอมิครอน" ทั้งหมด จะต้องสูญเสียใครในครอบครัวไปบ้าง

วันนี้ (17ก.พ.65) ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Sunt Srianthumrong เกี่ยวกับสถานการณ์ "โควิด-19" โดยระบุว่า  Covid-19: ถ้าพวกเรา Move On ระดับติดเชื้อทุกคน ใครอยู่ ใครตาย ใครกำพร้า Worst Case Calculation เราจะ Let Go ได้หรือไม่กับตัวเลขนี้?

ผมทำการคำนวณจากสถิติการเจ็บป่วยตายของแต่ละช่วงอายุ โดยใช้ข้อมูลสถิติการป่วยตายนับจาก Omicron ระบาด ของผู้ที่ฉีดและไม่ฉีดวัคซีน เท่าที่พอสามารถหาได้ และได้ผลการคำนวณคร่าวๆ เป็น Worst Case Scenario ที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าทุกคนในประเทศติดเชื้อทั้งหมดภายในรอบปี 

ผลการคำนวณ สังคมไทยจะต้องสูญเสียใครไปบ้าง:

ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 274,379 คน

แบ่งออกเป็น

ปู่ย่าตายายทวด ผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไป 234,036 คน

เสาหลักครอบครัว อายุ 40 - 59 ปี 34,016 คน

วัยสร้างเนื้อสร้างตัว อายุ 30 - 39 ปี 2,686 คน

คนหนุ่มสาวที่กำลังตามหาความฝัน 20 - 29 ปี 2,014 คน

วัยรุ่นที่เพิ่งจะได้ออกท่องโลกกว้าง 10 - 19 ปี 1,023 คน

เด็กๆอันเป็นทีรักของคนทุกวัย 0 - 9 ปี 605 คน

อัตราการตายจาก Omicron ตอนนี้เราอยู่ที่ 0.2% ของผู้ติดเชื้อ จะเพิ่มเป็น 0.4% ทันทีเพราะ คนสูงวัยจะติดเชื้อเพิ่มในสัดส่วนที่สูงกว่าปัจจุบันมาก เพราะจะหลบยังไงก็ไม่พ้น

ทุกๆเสาหลักครอบครัวที่หายไป ย่อมหมายถึงเด็กกำพร้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในที่นี้ก็คือ เด็กกำพร้าที่จะเพิ่มขึ้นหลายหมื่นคน ในทันที

และผมคิดว่าถ้า Covid มันไม่หายไปไหนและยังอยู่กับเราต่อไป เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆๆๆ ทุกปี Omicron มันเก่งและเร็วมากเกินพอ

ผมเลือกที่จะ Post การคำนวณนี้ในวันนี้ วันมาฆะบูชา วันพระใหญ่ วันสำคัญของความดีงามและความถูกต้อง

ผมอยากให้พวกเราทุกคนเห็นว่า มันเป็นทางเลือกที่เลือกไม่ได้ และผมจะไม่เลือกโดยเด็ดขาดถ้ามีอำนาจที่จะเลือกได้ และเชื่อว่าพวกเรามากมายก็จะคิดและเลือกแบบเดียวกับผมเช่นกันครับ 

ขอให้ความดี ความถูกต้อง และศรัทธา สถิตอยู่กับพวกเราทุกๆคนครับ



ข้อมูลจาก ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง

ภาพจาก AFP 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง