กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ ... การเปลี่ยนเลนส์แซงครั้งใหญ่ของจีน (ตอนจบ) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ขณะเดียวกัน การนําเครื่องมืออุปกรณ์อัตโนมัติ และวิธีการและเทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูง รวมทั้งรูปแบบการจัดการสมัยใหม่มาใช้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบและการผลิตได้มากกว่า 30% และ 40% ตามลําดับ

สิ่งนี้ช่วยลดระยะเวลาโครงการลงได้กว่า 30% จัดการกับความท้าทายจากการขาดแคลนแรงงานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนความก้าวหน้าไปสู่ระดับกลางและระดับสูงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและคุณค่า รวมทั้งยังช่วยประสานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ลองคิดเปรียบเทียบถึงความประหยัดอันเนื่องจากความเร็ว (Economies of Speed) ที่พัฒนาไปดูว่าช่วยทำให้ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจก่อสร้างของจีนเพิ่มขึ้นขนาดไหน

ในสมัยก่อน ไทยเราก่อสร้างอาคารเฉลี่ย 3 วันต่อชั้นก็ถือว่าเร็วมาก ในเวลาต่อมาจีนก็ทำลายสถิติด้วยการก่อสร้างวันละ 3 ชั้น แต่ล่าสุด เทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ช่วยให้จีนใช้เวลาเฉลี่ยเพียงชั้นละ 3 ชั่วโมง!

ด้วยประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของจีนที่สูงขึ้น จีนจึงเป็นแหล่งรองรับการลงทุนด้านการผลิตที่ “หอมหวน” สำหรับกิจการข้ามชาติ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า จีนจะยังคงดึงดูดใจให้กิจการต่างชาติหลั่งไหลเข้าไปลงทุนในจีนระลอกใหม่ในอนาคต

ในอีกด้านหนึ่ง แม้ว่าเศรษฐกิจจีนเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักหน่วงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา อาทิ การบริโภคที่อ่อนแรง การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการส่งออกที่อ่อนแอ รวมทั้งแรงกดดันจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรที่ต้องการ “แยกขั้ว” ผ่านสงครามการค้า เทคโนโลยี และอื่นๆ แต่จีนยังคงเป็นตลาดการบริโภคที่ทรงพลังและสำคัญยิ่งสำหรับหลายบริษัทชั้นนำของโลก

ภาคการบริโภคภายในประเทศที่เติบใหญ่ในเชิงปริมาณและคุณภาพตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และส่งเสริมการพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่ดังกล่าว

หากพิจารณาจากเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024 ก็อาจสรุปได้ว่า คนจีน “ลืม” และกำลัง “เอาคืน” สิ่งที่ขาดหายไปจากช่วงวิกฤติโควิดอย่างแท้จริง กำลังซื้อของจีนได้แสดงถึงความมี

ชีวิตชีวาอย่างชัดเจน กล่าวคือ การจับจ่ายใช้สอยในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

ขณะที่ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวในประเทศก็มีจํานวนกว่า 470 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 34.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกัน รายได้จากยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ “บ็อกซ์ออฟฟิศ” ของจีนในช่วงเทศกาลดังกล่าวก็ทะยานสูงถึง 8,000 ล้านหยวน สร้างสถิติใหม่สําหรับช่วงเวลาดังกล่าวเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น การประชุม “เหลี่ยงฮุ่ย” ก็ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในปัจจุบันและอนาคต จนนำไปสู่ระดับความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นของภาคเอกชนและประชาชนต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจจีน

เราเห็นการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ทั้งจีนและเทศ และการเพิ่มเป้าหมายการจ้างงานเป็น 12 ล้านตำแหน่งใหม่เพื่อดูดซับการว่างงานและเพิ่มกำลังซื้อผ่านพื้นฐานของการมีงานทำ และการเพิ่มโมเมนตัมภาคการบริโภคให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

มองออกไปข้างหน้า กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ไม่เพียงจะช่วยให้จีนสามารถรักษาตำแหน่งผู้นําด้านเทคโนโลยีและการค้าระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังจะมีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนประเทศกําลังพัฒนาอื่นๆ ให้เติบใหญ่ และการกระจายตัวทางเศรษฐกิจโลก

จีนยังประสานกำลังการผลิตคุณภาพใหม่ข้ากับยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีน ปากีสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่จีนผลักดันตามอภิมหายุทธศาสตร์ “ข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของบทเรียนที่ล้ำค่าในกรณีหลัง

และเพื่อให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในวงกว้างอย่างแท้จริง จีนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเข้าถึงผู้ที่มีความสามารถพิเศษ และจัดสร้างกลไกใหม่เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถพิเศษเหล่านั้นจากทั่วทุกมุมโลก

สิ่งนี้สะท้อนว่า จีนกำลังเดินหน้าปรับปรุง “ระบบนิเวศ” โดยรวมเพื่ออัพเกรดอุตสาหกรรมการผลิตของตนเองให้ทันสมัย และจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ผันผวนมากขึ้น กลยุทธ์นี้จึงถูกมองว่าจะเป็นกุญแจสําคัญในการขยายการเติบโตที่มีคุณภาพของจีนในอนาคต

แต่สำหรับผมแล้ว จีนมองไกลไปกว่านั้นมาก เพราะกลยุทธ์นี้ถือเป็นความพยายามของจีนในระดับโลกที่เรียกร้องให้เกิดความร่วมมือ นวัตกรรม และความมุ่งมั่นร่วมกันสู่อนาคตที่เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity) อย่างยั่งยืนและครอบคลุม

กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่นี้จะเป็นเครื่องมือใหม่ที่จีนจะใช้ในการ “เปลี่ยนเลนส์แซง” สหรัฐฯ ในอนาคต ...

ภาพจาก AFP