เมื่อมังกรจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ คิวอาร์โค้ดก็ตกยุค โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
เมื่อมังกรจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ คิวอาร์โค้ดก็ตกยุค โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
เมื่อมังกรจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ คิวอาร์โค้ดก็ตกยุค โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤติโควิด จีนใช้ระบบการชำระเงินด้วยฝ่ามือแบบสัมผัส และคิวอาร์โค้ด (QR Code) แต่ครั้นโควิดระบาด การชำระเงินด้วยฝ่ามือแบบสัมผัสก็แปรเปลี่ยนไปเป็นการชำระเงินด้วยการสแกนใบหน้า (Facial Scan)
แต่เวลาผ่านไปใม่นาน จีนก็คิดค้นนวัตกรรมการชำระเงินด้วยฝ่ามือ (Palm Payment) ที่สะดวก คล่องตัว และประหยัดกว่า ซึ่งนับเป็นการยกระดับประสบการณ์การชำระเงินของจีนไปอีกขั้นหนึ่ง วันนี้ผมจะพาไปส่องระบบการชำระเงินล้ำสมัยนี้กันครับ ...
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 เทนเซ้นต์ (Tencent) ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่มืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ได้เปิดตัวระบบการชำระเงินด้วยฝ่ามือผ่านบริการวีแชตเพย์ (WeChat Pay) ซึ่งเป็นแอป
ระบบชำระเงินยอดนิยมของจีน เป็นครั้งแรก
ระบบดังกล่าวใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ขั้นสูงที่มาพร้อมกับอุปกรณ์การสแกนด้วยกล้องอินฟราเรด ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ฝ่ามือแต่ละจุดและรูปแบบเฉพาะของเส้นเลือดใต้ผิวหนังที่เป็นอัตลักษณ์ของผู้ใช้ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
ระบบนี้ทำงานคล้ายกับระบบการจดจําใบหน้า แต่มีความแม่นยํามากขึ้น ทําให้ผู้ใช้สามารถทําธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ไร้สัมผัส และไร้เงินสด
ราวหนึ่งเดือนต่อมา วีแชตก็นำร่องใช้ระบบดังกล่าวในบริการรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นทางท่าอากาศยานต้าซิง (Daxing Airport Express) ที่กรุงปักกิ่ง ก่อนขยายไปยังช่องทางไปยังสํานักงาน สถาบันการศึกษา ร้านค้าปลีก และร้านอาหารในปักกิ่ง
ในเดือนกันยายน 2023 วีแชตยังได้ขยายบริการชำระเงินด้วยฝ่ามือไปที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในกว่า 1,500 สาขาในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน
ต่อมา บริการดังกล่าวก็ขยายไปในหลายพื้นที่และช่องทาง อาทิ สถานีรถไฟใต้ดินบางแห่งในปักกิ่ง กวางโจวและเซินเจิ้นในมณฑลกวางตุ้ง และต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิงในแถบอีสานจีน
หลังผ่านตรุษจีนปีมังกรไปไม่นาน บริการรถไฟใต้ดิน 2 แห่งในเซี่ยงไฮ้ได้เริ่มติดตั้งระบบและอุปกรณ์การจ่ายเงินด้วยฝ่ามือ และคาดว่าจะสามารถขยายการบริการชำระเงินดังกล่าวไปยังร้านสะดวกซื้อและช่องทางจัดำหน่ายอื่นๆ ในจีนต่อไปในอนาคตอันใกล้
โดยในชั้นนี้ กลุ่มธุรกิจรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้เซินถง (Shanghai Shentong Metro Group) ซึ่งเป็นผู้ใหเบริการรถไฟใต้ดินในนครเซี่ยงไฮ้ ได้ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ณ สถานีถนนหลงหยาง (Longyang Road) ซึ่งให้บริการรถไฟใต้ดินสาย 2, 7, 16 และ 18 และสถานีถนนซิงจง (Xingzhong Road) สาย 9 เพื่อวิจัยและทดสอบภายหลังการประเมินผลการทดลองใช้งานในระยะแรก
นอกจากบริการขนส่งสาธารณะและเชนร้านสะดวกซื้อแล้ว วีแชตยังร่วมมือกับซุปเปอร์มังกี้ (Supermonkey) ธุรกิจออกกำลังกาย “ฟิตเนส” อัตโนมัติแบบ 24 ชั่วโมงชั้นนำของจีน ให้บริการสแกนฝ่ามือเพื่อเปิดประตู ลงชื่อเข้าคอสต์เรียน และชำระค่าสินค้า เป็นต้น
ท่านผู้อ่านอาจสงสัยว่า แค่จับมือกับธุรกิจฟิตเนส ถึงขนาดต้องเอามายกตัวอย่างให้ทราบกันเลยหรือ ผมขอเรียนว่า ซุปเปอร์มังกี้เป็นธุรกิจฟิตเนสที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมนี้ของจีนเลยทีเดียว
ภายหลังก่อตั้งเมื่อปี 2014 ธุรกิจฟิตเนสนี้ก็นำเสนอบริการในรูปแบบที่แปลกใหม่ และขยายสาขาในหัวเมืองต่างๆ ของจีนอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ตู้ยิม (Gym Box) ที่เป็นเสมือนฟิตเนสในตู้คอนเทนเนอร์ และตามด้วยสตูดิโอคลาสกลุ่ม (Group Class Studios) ที่เซินเจิ้น
ด้วยกระแสห่วงใยสุขภาพและการส่งเสริมของภาครัฐ ซุปเปอร์มังกี้สามารถขยายไลน์ธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยในปีต่อมา บริษัทก็ขยายธุรกิจ “ซุปเปอร์มังกี้มินิ” (Supermonkey mini) ฟิตเนสขนาดเล็กแบบเฉพาะตัว และกระจายสาขาไปยังเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งในปี 2016 และ 2018 ตามลำดับ
ในช่วงวิกฤติโควิด ธุรกิจก็ยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการดังกล่าวในหัวเมืองใหญ่อื่นของจีน อาทิ กวางโจว หนานจิง หางโจว และอู่ฮั่น จนมีสาขากว่า 100 แห่งทั่วจีนที่คนที่ห่วงใยสุขภาพจำนวนกว่า 300,000 คนสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก
และโดยที่ธุรกิจนี้ใช้เทคโนโลยีดิจิตัล ไม่มีบัตรสมาชิก และพนักงานขาย และเรียกเก็บค่าบริการต่อครั้ง ระบบการชำระเงินด้วยฝ่ามือจึงเข้ามาช่วยยกระดับบริการของบริษัทได้อีกด้วย ส่งผลให้ Supermonkey กลายเป็น “แบรนด์ไลฟสไตล์” ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเมืองอย่างกว้างขวางในจีน
ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้บริการสามารถใช้มินิโปรแกรมในแอปวีแชตลงทะเบียนจองคลาสเพียง 2 ชั่วโมงล่วงหน้า เรียกว่าถ้าช่วงบ่ายรู้ว่าจะไม่มีงานด่วนหรือนัดหมายมื้อเย็น ก็สามารถจองคิวได้ พร้อมรับโปรโมชั่นแบบเป็นปัจจุบัน โดยมีค่าบริการในอัตราที่แตกต่างกันตั้งแต่ 69-159 หยวน
หลังใช้บริการ ผู้ใช้บริการแต่ละคนยังสามารถประเมินความพึงพอใจคลาส ผู้ฝึกสอน และอื่นๆ รวมทั้งระบุความสนใจเข้าร่วมคลาสฟิตเนสถัดไปได้ ซึ่งอาจตามมาด้วยคูปองส่วนลด และช่วยให้บริษัทสามารถจัดคลาสฟิตเนสตามความต้องการได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
กลับมาที่บริการชำระเงินด้วยฝ่ามือกันต่อดีกว่า จนถึงปัจจุบัน ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้บริการดังกล่าวครอบคลุมถึงผู้อยู่อาศัยในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบชื่อและนามสกุลจริงในวีแชตเพย์
แต่สำหรับผมแล้ว วิธีการชําระเงินแบบใหม่นี้ยังอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น และห่างไกลจากการเป็นกระแสหลักและบรรทัดฐานใหม่ที่ใช้อย่างแพร่หลายในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นประสิทธิภาพการใช้งาน เทคโนโลยีใหม่ต้องเป็นมิตรกับผู้ใช้ทุกกลุ่มมากขึ้น อาทิ ผู้สูงอายุและคนพิการ
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการบางส่วนยังกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านข้อมูลไบโอเมตริกซ์ ทำให้การพัฒนาระบบจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดอยู่ต่อไป
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า อาลีบาบา (Alibaba) ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันสําหรับบริการอาลีเพย์ (Alipay) สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ให้ผู้ใช้บริการในจีนและแม้กระทั่งในต่างประเทศ
เพราะปัจจุบัน อาลีเพย์และวีแชตเพย์ให้บริการการชำระเงินผ่านแพล็ตฟอร์มรวมกันคิดเป็น 90% ของการชําระเงินผ่านมือถือในจีน
ยิ่งมองในเชิงกว้าง ตลาดการชําระเงินไบโอเมตริกซ์ทั่วโลกจะใหญ่กว่าของตลาดจีนอีกหลายเท่าตัว Goode Intelligence บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยการระบุตัวตนและไบโอเมตริกซ์ และการให้คำปรึกษาองค์กรที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเมินว่า ตลาดโลกคาดว่าจะเข้าถึงผู้ใช้บริการมากกว่า 3,000 ล้านคน และมีมูลค่าถึงราว 5.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2026
ลองจินตนาการภาพในอนาคตที่เราสามารถทําอะไรหลายอย่างได้ด้วยเพียงแค่การโบกมือ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การขึ้นรถไฟใต้ดิน และอื่นๆ เราไม่จำเป็นต้องพกพากุญแจบ้าน กระเป๋าสตางค์ บัตรเงินสด บัตรเครดิต บัตรโดยสาร และสมาร์ตโฟนติดตัวอีกต่อไป แม้กระทั่งการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดก็จะตกยุคอย่างรวดเร็ว
แม้เรา “ไม่อาจปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” ได้ แต่คนจีนในวันนี้กำลังเดินหน้าสู่การ “ชำระเงินด้วยฝ่ามือ” กันแล้ว ...
ภาพจาก reuters