กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ ... การเปลี่ยนเลนส์แซงครั้งใหญ่ของจีน (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ ... การเปลี่ยนเลนส์แซงครั้งใหญ่ของจีน (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
ในการประชุมสองสภา หรือ “เหลี่ยงฮุ่ย” ของจีนเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2024 ณ มหาศาลาประชาชน ใจกลางกรุงปักกิ่ง ที่ประชุมได้หยิบยกหลายประเด็นใหม่ขึ้นหารือกัน และหนึ่งในนั้นได้แก่ “New Quality Productive Forces” ซึ่งผมขอเรียกว่า “กำลังการผลิตคุณภาพใหม่”
คำศัพท์ใหม่นี้ไม่เพียงเป็นประเด็นสำคัญที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและที่ปรึกษาทางการเมืองพูดคุยกันในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับเศรษฐกิจของจีนในยุคหน้าเท่านั้น และยังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา
“กำลังการผลิตคุณภาพใหม่” มีที่มาที่ไปและหน้าตาเป็นอย่างไร เราไปพูดคุยกันในวันนี้ครับ ...
ภายหลังหลายทศวรรษของการเติบโตอย่างรวดเร็ว จีนได้เริ่มวางแผนเป็นหัวหอกในการยกระดับภาคการผลิตของตนเองจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ จีนกำลังเปลี่ยนโมเดลจาก “การเติบโตอย่างรวดเร็ว” ไปสู่ “การพัฒนาคุณภาพสูง”
แนวทางที่มุ่งเน้นให้ “นวัตกรรม” เป็นศูนย์กลางนี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งที่ส่งเสริมกระบวนทัศน์ด้านเทคโนโลยีระดับสูงที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพ
เราได้สังเกตเห็นจีนทุ่มทุนกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ในปี 2022 การลงทุนในการวิจัยขั้นพื้นฐานของจีนอยู่ที่ราว 6.6% ของการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาโดยรวม ส่งผลให้ดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการจัดอันดับขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization) ในปี 2023 จีนอยู่ในอันดับที่ 12 ในดัชนีนวัตกรรมโลก และกลายเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ 100 อันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกัน การพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่ในจีนได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนระบุถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญในการมีส่วนร่วมของอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ต่อจีดีพีของจีนจาก 7.6% ในปี 2014 เป็นมากกว่า 13% ในปี 2022
ภาพจาก AFP
สี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวถึง “กำลังการผลิตคุณภาพใหม่” เป็นครั้งแรกในสุนทรพจน์เมื่อช่วงครึ่งหลังของปี 2023 โดยในท่อนหนึ่งของคำกล่าวระบุว่า
“กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การจัดสรรนวัตกรรมของปัจจัยการผลิต และการปรับโครงสร้างและการยกระดับอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากแรงงานคุณภาพอย่างเหมาะสม อันนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพของปัจจัยการผลิต”
นอกจากนี้ นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังสามารถสร้างอุตสาหกรรมและโมเดลใหม่ของการพัฒนาสู่อุตสาหกรรมระดับไฮเอนด์ อัจฉริยะ และสีเขียว และนำไปสู่การเติบโตใหม่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการพัฒนากําลังผลิตใหม่
ยกตัวอย่างเช่น กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการและแรงงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอปรับเปลี่ยนตัวเองผ่านการสร้างระบบอุตสาหกรรมรีไซเคิลและการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาวัสดุชีวภาพใหม่
ด้วยนวัตกรรมและวิธีการใหม่ดังกล่าว อุตสาหกรรมดั้งเดิมจะถูกยกระดับ ค้นพบจุดเติบโตใหม่ และสามารถรักษาความได้เปรียบในการพัฒนาคุณภาพสูงเอาไว้ได้
ประการสำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้การพัฒนาได้เห็นผลเป็นรูปธรรมบ้างแล้วในระยะหลัง อาทิ การผลิตยานยนต์พลังงานทางเลือก เซลล์แสงอาทิตย์ และหุ่นยนต์บริการ
ผลผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกของจีนทะยานขึ้นแตะหลัก 9.4 ล้านคันในปี 2023 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปี
ขณะที่ผลผลิตของแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น 54% แตะระดับ 540 ล้านกิโลวัตต์ ส่วนการผลิตหุ่นยนต์บริการก็สูงถึง 7.8 ล้านชุด เพิ่มขึ้นกว่า 23% เมื่อเทียบกับของปีก่อน
ความสัมฤทธิ์ผลดังกล่าวมีส่วนช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจจีนในปี 2023 เติบโต 5.2% เมื่อเทียบกับของปีก่อน และมีอิทธิพลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกมากกว่า 30%
แต่จีนไม่ต้องการหยุดเพียงแค่นั้น เราไปคุยกันต่อตอนหน้าครับ ...
ภาพจาก: AFP