สหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธกว่า 100 ลูก 'ถล่มกบฏฮูตี' สถานการณ์ส่อบานปลาย

วันนี้ ( 12 ม.ค. 66 )กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (US Central Command) รายงานว่า สหรัฐ และ ได้ส่งเครื่องบินไอพ่นและเครื่องบินรบสหรัฐฯ หลายลำ ทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินที่ลอยลำอยู่ในทะเล เพื่อไปปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกต่อฮูตีในเยเมน มีรายงานเรือรบสหรัฐฯ รวมถึงเรือดำน้ำ  USS Florida ร่วมยิงขีปนาวุธ "โทมาฮอว์ค" หลายลูกถล่มทางอากาศฮูตีในเยเมน   

สหรัฐฯระบุด้วยว่า มีการใช้เครื่องบินรบและขีปนาวุธโทมาฮอว์กนำวิถีที่แม่นยำมากกว่า 100 ลูก ทำลายเป้าหมาย 60 จุดในที่ตั้งของกลุ่มกบฏฮูตี 16 แห่ง ใน4 เมือง ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มฮูตีในเยเมนที่ถูกโจมตีในครั้งนี้ ได้แก่ ฮูเดย์ดาห์ ซาดา ดามาร์ และกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน 

ทั้งนี้ มีภาพ ขณะที่กลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือเมืองโฮไดดาห์ ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของเยเมน ที่อยู่ติดทะเลแดง ซึ่งถูกโจมตีจากกองทัพสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร

นับเป็นการโจมตีใส่ดินแดนเยเมนจากฝีมือของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่กลุ่มกบฏฮูตี เริ่มต้นโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงที่เริ่มต้นเมื่อปลายปีที่แล้ว และเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกมาระบุในแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ จะไม่มีความลังเลอีกต่อไปหากจำเป็น

ด้านกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้ความสามารถในการโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงของกลุ่มกบฏฮูตีลดลง พร้อมยืนยันเป็นการโจมตีเพื่อปกป้องตนเอง และยังไม่มีแผนที่จะโจมตีเพิ่มเติมในขณะนี้

 ขณะที่แถลงการณ์ร่วมของสหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, แคนาดา, เดนมาร์ก, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ระบุ การโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีเป็นไปเพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นฟูเสถียรภาพในทะเล 

หลังจากที่เกิดเหตุโจมตีขึ้น อับเดล-มาเล็ก อัล-ฮูตี ผู้นำกลุ่มกบฏฮูตี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า พวกเราจะตอบโต้เรื่องที่ถูกโจมตีอย่างแน่นอน พร้อมกับขู่ว่าจะมีการโจมตีครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีรายงานว่าฐานทัพสหรัฐและอังกฤษ ในตะวันออกกลางที่ตั้งอยู่ในซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน กาตาร์ คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  อาจถูกเป็นเป้าโจมตีเพิ่มเติม   เหมือนเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง

ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล เพื่อแสดงจุดยืนการประท้วงเรื่องที่อิสราเอลโจมตีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

ขณะที่โฆษกกองกำลังกลุ่มกบฏฮูตี ก็ออกมาแถลง  ว่าการโจมตีของกองกำลังพันธมิตรใส่ดินแดนเยเมนที่เกิดขึ้นทั้งหมด 73 ครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน โดยการโจมตีที่เกิดขึ้นมีเป้าหมายเป็นฐานทัพหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ของเยเมน

ขณะที่ ชาวบ้านในกรุงซานา เผยว่าไม่รู้สึกหวาดกลัว  กับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรต่อกลุ่มฮูตี โดยยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ เมื่อวานนี้ ชาวเยเมนจำนวนมาก ออกมารวมตัวกันในกรุงซานา ของเยเมน เพื่อแสดงการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในฉนวนกาซา โดยมีหลายคนที่นำอาวุธมาเข้าร่วมในการชุมนุมด้วย

ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่สนใจสิ่งที่สหรัฐฯ พยายามจะกดดันเยเมน พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งเปรียบเสมือนพี่น้องของพวกเขา จนกว่าการโจมตีในฉนวนกาซาจะยุติลง 

ด้านซาอุดิอาระเบียออกมาแสดงปฏิกิริยาเป็นประเทศแรก เรียกร้องสหรัฐฯ และพันธมิตรแสดงความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียด  ซึ่งช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้   ซาอุดีอาระเบียมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนอย่างต่อเนื่อง  

ขณะที่ อิหร่านและรัสเซีย ออกมาประณามสหรัฐ และพันธมิตรตะวันตก ซึ่งโจมตีทางอากาศในเยเมน เป็นการกระทำตามอำเภอใจ” ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเยเมน และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กระตุ้นให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาค

รัสเซียยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ (12 ม.ค.) เพื่อหารือกรณีดังกล่าว และข่าวสหรัฐโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย  ส่งผลหนุนราคาทองฟิวเจอร์พุ่งกว่า 20 ดอลล์  ขณะที่วิกฤตทะเลแดง ส่งผลกระทบต่ออียิปต์มีรายได้จากคลองสุเอซลดฮวบร้อยละ 40 

ภาพจาก: รอยเตอร์