ลุ้น!! ราคาทองขึ้นแตะ บาทละ 3 หมื่น
หลังจากราคาทองคำในบ้านเรามีการปรับราคาขึ้นไปสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี เมื่อวานนี้ จึงมีการออกมาประเมินกันว่าราคาจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้อีกถึงไหนกัน?
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากจะมีผลกระทบต่อกิจกรรมเศรษฐกิจเกือบทุกอย่างแล้ว ที่สำคัญคือผลด้านความรู้สึก หรือด้านจิตวิทยาของผู้บริโภคและนักลงทุนด้วย สะท้อนได้ชัดเจนเลยจากราคาทองคำในตลาดโลก ที่เมื่อวานนี้ปีนราคาไปแตะในระดับที่สูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี เหตุเพราะความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลต่อมายังพฤติกรรมการซื้อทองคำด้วยหวังว่าจะเก็บไว้เป็นสินทรัพย์มั่นคงและปลอดภัย บวกกับการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ราคาทองคำในบ้านเราแพงขึ้นสูงสุด ทั้งที่ราคาทองคำโลกยังคงอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งจุดสูงสุดของราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ซึ่งราคาทองคำประเทศตามที่สมาคมค้าทองคำรายงาน เปิดตลาดมาช่วงเช้านี้ (ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.33 น. ) ปรับขึ้นมาอีก 50 บาท ทำให้ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 27,150 ขายออกบาทละ 27,250 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 26,666.44 ขายออกบาทละ 27,750 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ทิศทางทองคำระยะกลางระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เพราะยังมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐ และสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส้รางความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางและรัฐบาลของแต่ละประเทศจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลังต่อไป จึงเป็นผลเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ แม้ว่าอาจมีปัจจัยลบอย่างความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 เข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาเป็นระยะ
นางพวรรณ์มองว่า หากราคายังทรงตัวเหนือกรอบแนวรับบริเวณ 1,804-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีลุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,831-1,843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ โดยยังคงเป้าหมายของปีนี้ที่ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากระดับปัจจุบันนัก
โดยราคาทองคำแท่ง 96.5% วันนี้ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 27,250 บาท ถือว่าเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะยังไม่สามารถทำลายสถิติเดิมที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ทำไว้เมื่อเดือนกันยายน 2554 แต่จากการอ่อนค่าของเงินบาท ในช่วงนี้จึงทำให้ราคาทองคำในประเทศอยู่ระดับสูงกว่าปี 2554 ซึ่งช่วงนั้นค่าเงินบาทอยู่ในระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าเคลื่อนไหว 31.60-31.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สอดคล้องกับนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ที่มองว่าราคาทองคำในช่วง 1-3 เดือนนี้จะยังเป็นช่วงขาขึ้น เพราะความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งทำให้ยังได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอยู่ จึงทำให้หันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ขณะเดียวกันธนาคารกลางยังได้หันไปลงทุนในทองคำเช่นกัน เพื่อกระจายความเสี่ยงในการบริหารเงินทุนสำรองของประเทศ จึงยิ่งหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปสูง
ซึ่งบล.โกลเบล็ก ยังคงให้กรอบราคาทองคำไว้ที่ 1,850-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,500 บาท ดังนั้นช่วงนี้ที่เป็นขาขึ้นจึงเหมาะแก่การขายออกเพื่อทำกำไร แต่หากต้องการซื้อเก็บเพื่อลงทุน รอให้ราคาย่อลงมาอยู่ที่ประมาณ 1,700-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,600-26,900 บาท เป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะลงทุน
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า ราคาทองในบ้านเราถ้าจะให้ขึ้นไปแตะ 30,000 บาทนั้น เป็นไปได้ยาก แต่ยังมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบที่บาทละ 28,000 บาท แนะนำผู้ที่ลงทุนให้ขายทำกำไรบางส่วน และระวังแรงเทขายจากนักลงทุนสถาบันด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราคาทองวันนี้ เพิ่มขึ้น 50 บาท รูปพรรณขายออก 27,750 บาท
เปิดสาเหตุ! ราคาทองคำวันนี้ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาทองเช้าวันนี้ ปรับขึ้น 50 บาท รูปพรรณขายออก 27,650 บาท
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE