เปิดแนวทางปฏิบัติป้องกันโควิด-19 สำหรับร้านเสริมสวย-ร้านตัดผม

วันนี้ (3พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อนุญาตให้เปิด 6 กลุ่มกิจกรรมและกิจการ

หนึ่งในนั้นคือร้านตัดผมเสริมสวยที่เปิดให้บริการได้แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด

สำหรับแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหลักและมาตรการเสริมสำหรับพื้นที่ ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี 
 
แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 

1.1 ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของร้าน อุปกรณ์ก่อนและหลังการ ให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 

1.2 ให้เว้นระยะห่างระหว่างเก้าอี้ตัดผม อย่างน้อย 1.5 เมตร

1.3 ควรให้มีฉากกั้นในการให้บริการ และลดการพูดคุยที่ไม่จำเป็นระหว่างให้บริการ  

1.4 ให้พิจารณาควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด ด้วยการลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลง เท่าที่จำเป็น และงดรอรับบริการภายในร้าน โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

1.5 ให้มีการเปลี่ยนผ้าคลุมตัดผมทุกครั้งที่ให้บริการ

1.6 จัดการให้มีการระบายอากาศภายในร้านที่ดี

1.7 อาจเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็น หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานในบางพื้นที่ก็ได้

2. การเตรียมความพร้อมในการให้บริการ

 
(1) ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน ให้มีการตรวจคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานทุกคน โดยอาจตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานทุกคนก่อนเข้าทำงานทุก ครั้ง  และให้มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการดูแล หรือส่งต่อผู้ที่มีอาการป่วยไป สถานพยาบาล เช่น  - กรณีพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้หยุดงาน และสังเกต อาการตนเองที่บ้าน  - กรณีที่พบพนักงานบริการป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ ให้งดปฏิบัติงานจนกว่าอาการดี ขึ้น

(2) จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งมาตรการป้องกันควบคุมโรคภายในร้าน ให้ผู้ใช้บริการ ทราบ ให้เปิดเฉพาะบริการตัดผม สระผม แต่งหรือไดร์ผม โดยจัดร้านให้มีการระบายอากาศเพียงพอ และ งดเว้นบริการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสถูกสารคัดหลั่งหรือเลือด เช่น แคะหู ตัดขนจมูก ทำเล็บ งดเว้นบริการที่มีระยะเวลานาน เช่น ทำสีผม ยืดผม  จัดให้มีระบบนัดคิวล่วงหน้า และให้มารับบริการตามเวลานัด โดยไม่มีการนั่งรอคิวภายในร้าน  งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งานของลูกค้า แต่ละคนได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า 

(3) จัดให้มีการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ใช้บริการก่อนเข้าร้าน

(4) ขยายระยะเวลาในการเปิดบริการ เพื่อรองรับการเหลื่อมเวลาการทำงานของพนักงาน

(5) อาจพิจารณาจัดทำทะเบียนบันทึกผู้มีอาการป่วย ประกอบมาตรการฯ สำหรับพนักงาน และลูกค้า และอาจเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ ตามความเหมาะสม หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานในบางพื้นที่ ได้ เช่น การใช้ Application สำหรับการลงทะเบียนและเป็นคู่มือการปฏิบัติ ได้แก่ App Thai.care

(1) สวมหน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัยทั้งผู้ให้บริการและผู้มารับบริการ ตลอดเวลาที่อยู่ใน ร้าน 

(2) งดให้บริการผู้ที่มีอาการดังนี้ มีไข้  ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อยหอบ 

(3) เปิดให้บริการได้ เฉพาะการตัดหรือซอย และไดร์ผม เท่านั้น

(4) กำหนดให้ใช้เวลาให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง ต่อผู้รับบริการ 1 คน

(5) กำกับให้ผู้ให้บริการทุกคน สวมอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล ได้แก่ หน้ากาก ผ้าหรือหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ผ้ากันเปื้อน และ Face shield เป็นต้น 

(6) จัดเตรียมสถานที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล 70% อย่างเพียงพอตลอด ระยะเวลาที่ให้บริการ

(7) ก่อนและหลังจากให้บริการ ควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือด้วยแอลกอฮอล์เจล ก่อนหยิบ จับของใช้ส่วนตัว และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน

(8) หากพบว่าผู้ปฏิบัติงานในร้าน เป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าร้านอาจเป็นจุดแพร่เชื้อ ได้ ให้เจ้าของร้านปิดร้านอย่างน้อย 1 วัน ทำความสะอาดสถานที่ และดำเนินการตาม ประกาศของกรมควบคุมโรค

(9) พนักงานต้องแจ้งเจ้าของร้านทันทีและขอหยุดงาน เมื่อมีอาการของโรคทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อยหอบ หรือกรณีกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วง กักกันหรือมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคโควิด-19

(10) จัดให้มีการบันทึก รายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ วันที่และเวลา ของลูกค้าทุกราย ที่มาใช้บริการ เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ กรณี ต้องมีการสอบสวนโรค หรือ จัดให้มีการ ใช้ระบบกำกับติดตามผ่าน application

(11) ควรลดการใช้เงินสด และเปิดให้มีการรับชำระเงินผ่าน e-payment

2.3 การทำความสะอาด  

(1) จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริเวณทางเข้าร้านและจุดที่มีการใช้งานร่วมกันบ่อย ๆ เช่น หน้า ประตูทางเข้าร้าน และห้องต่างๆ

(2) ทำความสะอาด ล้างภาชนะอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ให้สะอาด ภายหลังมีผู้มาใช้ บริการทุกครั้ง ด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช่น แอลกอฮอล์ 70% หรือ โซเดียมไฮโปรคลอไรท์ 0.1% หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของคลอรีน หรือนึ่งหรือต้มหรืออบด้วยความร้อนที่ อุณหภูมิ อย่างน้อย 70°C

(3) เครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดผม ผ้ายางพลาสติก ผ้าคลุมตัว ต้องทำความสะอาดทุกครั้ง ก่อนนำกลับมา ใช้กับผู้รับบริการรายอื่น

(4) วัสดุ อุปกรณ์ที่สัมผัสผิวหนังและสารคัดหลั่งของผู้ใช้บริการ เช่น มีดโกน ถุงมือ ไม่นำมาใช้ ซ้ำกับผู้รับบริการรายอื่น และทิ้งของมีคมที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปลอดภัยและแยกไว้เป็นการ เฉพาะ เพื่อนำไปรวบรวมและส่งกำจัดอย่างถูกต้อง

(5) ห้ามรับประทานอาหารในพื้นที่ให้บริการ

(6) ทำความสะอาดสถานที่ โต๊ะ เคาน์เตอร์ อุปกรณ์ ทุก 2 ชั่วโมง

(7) จัดเตรียมเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ได้แก่ หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย และถุงมือ สำหรับพนักงานทำความสะอาด 

(8) จัดให้มีภาชนะรองรับขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และมีภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด สำหรับใส่ของมีคม และรวบรวมนำออกจากร้านทุกวัน

(9) ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศภายในร้านสม่ำเสมอ

(10) หากพบว่าผู้ปฏิบัติงานในร้าน เป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าร้านอาจเป็นจุดแพร่เชื้อ ได้ ให้เจ้าของร้านปิดร้านตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พร้อมทั้งทำความ สะอาดสถานที่ และดำเนินการตามประกาศของกรมควบคุมโรค
 

ที่มา : คู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19