TNN online โควิดระลอก4 ติดง่ายกว่าเดลต้า 4-6 เท่า คาดพบผู้ติดเชื้อ 50,000 รายต่อวัน

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

โควิดระลอก4 ติดง่ายกว่าเดลต้า 4-6 เท่า คาดพบผู้ติดเชื้อ 50,000 รายต่อวัน

โควิดระลอก4 ติดง่ายกว่าเดลต้า 4-6 เท่า คาดพบผู้ติดเชื้อ 50,000 รายต่อวัน

"หมอเฉลิมชัย" เผย โควิดระลอก4 อยู่ในช่วงขาขึ้น ติดง่ายกว่าเดลต้า 4-6 เท่า คาดพบผู้ติดเชื้อPCR+ATK 50,000 รายต่อวัน

วันนี้ (23ก.พ.65) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ Blockdit “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” โดยระบุว่า จากสถานการณ์โควิดระลอกที่ 4 ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ ผู้รักษาตัวอยู่ และผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องในขณะนี้นั้น เกิดจากลักษณะธรรมชาติของไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ติดต่อกันได้ง่าย

กล่าวคือติดง่ายกว่าไวรัสเดลต้า 4-6 เท่า แต่มีความรุนแรงทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าเดลต้า 5 เท่า

เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวข้างต้น มาประกอบกับสถิติโควิดระลอกที่ 3 ของประเทศไทย ซึ่งเกิดจากไวรัสเดลต้า ก็พอประมาณการได้ว่า

จำนวนผู้ติดเชื้อ (PCR+ATK)ในระลอกที่ 4 นี้ น่าจะอยู่ประมาณ 50,000 รายต่อวันและการเสียชีวิต น่าจะประมาณ 70 รายต่อวัน 

ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1 จำนวนผู้ติดเชื้อ : พบว่าในระลอกที่ 3 มีจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันสูงสุดที่ 23,418 ราย(13สค2564) โอมิครอนติดง่ายกว่า 4 เท่า จึงประมาณการได้ว่า อาจจะพบผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 93,672 ราย แต่ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากคือ มีการฉีดวัคซีนในระลอกนี้ มากกว่าระลอกที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญจึงทำให้ผู้จำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับราว 50,000 รายต่อวัน

ทั้งนี้ต้องมีปัจจัยสนับสนุนประกอบด้วย มาตรการของรัฐที่มีความเข้มข้นเหมาะสมกับสถานการณ์ มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ครบ 50 ล้านคน และวินัยของประชาชนที่ยังป้องกันตัวเองกันเป็นอย่างดี

ถ้าขาด 3 ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น โอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะมากกว่าวันละ 50,000 รายก็เป็นไปได้สูง

โดยลักษณะของจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน จะทยอยพบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือ ATK เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าน่าจะแซงหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจยืนยันด้วย PCR

เนื่องจากผู้ติดเชื้อจากไวรัสโอมิครอน ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ จึงมักจะไม่ได้ไปตรวจด้วยวิธี PCR ที่สถานพยาบาล

2 จำนวนผู้เสียชีวิต : เนื่องจากไวรัสโอมิครอนมีความรุนแรงน้อย ทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าเดลต้า 5 เท่า

ในช่วงที่เดลต้าระบาดระลอกที่ 3 พบอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1% จึงคาดว่าการเสียชีวิตจากโอมิครอนน่าจะอยู่ที่ 0.2%

เมื่อคาดการณ์ผู้ติดเชื้อวันละ 50,000 ราย จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเกิน 100 ราย

แต่เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง 8 กลุ่ม ก็จะส่งผลทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย น่าจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 70 ราย

แต่ถ้าสามารถระดมฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ได้ครบ 100% จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะต่ำกว่า 50 รายได้

ทั้งนี้มีตัวแปรที่สำคัญคือ จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลัก ซึ่งจะต้องบริหารจัดการ ให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยอยู่ที่โรงพยาบาลสนามและแยกกักที่บ้าน

เพื่อทำให้เตียงในโรงพยาบาลหลัก มีว่างเพียงพอที่จะรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางถึงอาการหนักไดั

ก็จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต เป็นไปตามประมาณการดังกล่าวข้างต้น

กล่าวโดยสรุป

1) โควิดระลอกที่ 4 จากไวรัสโอมิครอน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 1 มกราคม  2565 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง

2) จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน จะขยับตัวขึ้นไปอยู่ที่ราว 50,000 ราย ถ้ารัฐออกมาตรการที่เหมาะสม  ฉีดวัคซีนได้ดี ประชาชนมีวินัยและร่วมมือกันอย่างดี

3) ถ้ามาตรการของรัฐไม่เหมาะสม วัคซีนไม่ได้ตามเป้าหมาย และวินัยของประชาชนหย่อนยานลง  จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะเกินกว่า 50,000 ราย ไปแตะ 100,000 รายต่อวันได้

4) จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 70 รายต่อวัน และถ้าฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงได้ดี อาจจะอยู่ที่ 50 รายต่อวัน

5) กรณีที่มีการติดเชื้อขึ้นไปแตะระดับ 100,000 รายหรือมากกว่า อาจจะมีผู้เสียชีวิตเกินกว่าวันละ 100 รายได้


ข้อมูลจาก นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ

ภาพจาก รอยเตอร์

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง