Financial Psychology มีประโยชน์อย่างไรต่อการเงิน? วิเคราะห์โดย Zipmex

ขอขอบคุณภาพจาก top-psychology.com

 

           
จิตวิทยา (Psychology) คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของกระบวนการทางจิดใจและพฤติกรรม โดยพื้นฐานแล้ว จิตวิทยาสามารถที่จะช่วยคนในการตัดสินใจ การจัดการกับความเครียด และพฤติกรรม ซึ่งอาจอิงจากพฤติกรรมในอดีตและประเมินสิ่งที่จะเกิดในอนาคตผ่านพฤติกรรมได้

และหากคิดในมุมมองที่นำเอา จิตวิทยาการเงิน (Financial Psychology) มาปรับใช้ในการเงินก็อาจจะช่วยในเรื่องของด้านอารมณ์ในการตัดสินใจลงทุน การออม และการใช้จ่าย เพราะสำหรับผู้ที่ตัดสินใจหรือผู้ที่รับความเสี่ยงได้ดีก็อาจได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ส่วนตัว จิตวิทยา และอารมณ์ 

 

นอกจากนั้นพฤติกรรมทางการเงิน (Behavioural Finance) ก็มีมุมมองในเรื่องของพฤติกรรมของมนุษย์ที่สามารถนำมาวิเคราะห์และระบุรูปแบบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในตลาดการเงินต่าง ๆ ได้ ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินมีความนิยมมากขึ้นและผู้คนในสายงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องการ Upskill นี้เช่นกัน 

 

  

จิตวิทยาการเงิน (Financial Psychology) มีประโยชน์อย่างไร?

 

ขอขอบคุณภาพจาก financialpsychologyinstitute.eu

 

จิตวิทยาการเงิน (Financial Psychology) เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับเงินในแง่การตัดสินใจทางการเงิน และให้การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ที่บ่งบอกนิสัยทางการเงินของบุคคลนั้น ๆ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ความเกี่ยวข้องระหว่างตลาดการเงินต่าง ๆ กับธรรมชาติของมนุษย์ นอกจากนั้นก็สามารถที่จะเรียนรู้การควบคุมเงินได้อีกด้วย 

 
โดยจะไม่ใช่การที่ให้เงินมาควบคุมเรา และปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเงินก็อาจเกี่ยวกับจิตวิทยาครอบครัว (Family Psychology) ที่มีการซึบซับในวัยเด็กทำให้มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางการเงิน บวกกับการวิตกกังวลก็สามารถที่จะนำไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ไม่ดี 

 

หากอ้างอิงจากข่าวของ CNBC พบว่าที่ปรึกษาหลายคนต้องการด้านจิตวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญการวางแผนทางการเงิน ตามรายงานจากผลวิเคราะห์ในปี 2021 ของ Certified Financial Planner Board ซึ่งจุดนี้ก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้คณะกรรมการเพิ่มเรื่องนี้เข้าไปหลักสูตรอีกด้วย 

และเมื่อนำหลักจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ก็อาจให้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอย่างชาญฉลาดที่จะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น การเอาชนะอุปสรรคการเงิน การวางแผนการเงินระยะยาว หรือชี้จุดของตัวเราเมื่อตัดใจสินไม่ดี ทำให้จิตวิทยาทางการเงินก็อาจจะเป็นตัวช่วยเสริมในงานปรึกษาการการเงินและการลงทุน การจัดการความเสี่ยง หรือว่าจะเป็นโบรกเกอร์ เป็นต้น 

 

 

ประโยชน์ของพฤติกรรมทางการเงิน (Behavioural Finance) 

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมทางการเงิน (Behavioural Finance) ได้รับความนิยมมากขึ้นในเรื่องการเอามาประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ และในความเป็นจริง ตลาดการลงทุนนั้นอาจเกี่ยวกับอารมณ์มากกว่าเหตุผล หรืออาจจะพูดได้ว่านักลงทุนที่ประสบสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถทางปัญญา แต่อาจจะมีความสามารถทางด้านพฤติกรรมและอารมณ์ได้ดีกว่า

●     พฤติกรรมทางการเงิน (Behavioural Finance)

 

ขอขอบคุณภาพจาก betterhelp.com

พฤติกรรมทางการเงิน (Behavioural Finance) คือการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อนักลงทุนและตลาดการเงินในเชิงจิตวิทยา โดยจะเน้นไปที่การอธิบายว่าทำไมนักลงทุนจึงขาดการควบคุมตัวเอง ตัดสินใจโดยมีอคติส่วนตัว หรือการกระทำที่ขัดต่อประโยชน์ของตนเอง 

ยกตัวอย่างชั้น เมื่อตลาดมีความกดดันและมีความเชื่อมั่นที่น้อยลง ผู้คนก็มีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์มากขึ้น และในทำนองเดียวกัน หากระดับราคามีการรีบาวด์ (Rebound) นักลงทุนเชิงพฤติกรรมก็อาจจะใช้เทคนิคการสร้างแผนภูมิและทำการวิเคราะห์เพื่อระบุรูปแบบของตลาด เพื่อให้เห็นถึงรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ 

 

หรืออีกตัวอย่างนึงคือแนวคิดของ Time Horizon ที่นักลงทุนในแต่ละช่วงชีวิตมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป เช่น คนหนุ่มสาวมีแนวโน้มที่จะรับความเสี่ยงได้มากกว่า ในทางตรงกันข้าม คนสูงอายุก็อาจจะมีแนวโน้มที่ขายทันทีเมื่อเห็นราคาลดลง 

 
ดั้งนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการเงินก็จะมีโปรไฟล์ประชากรเกี่ยวกับพฤติกรรมเพื่อช่วยให้การคาดกาณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทฤษฎีทางการเงินแบบดั้งเดิมก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายในตลาดได้จึงหากพิจารณาจาพฤติกรรมก็อาจช่วยในเรื่องการตัดสินใจได้

กล่าวโดยสรุป จิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและจิตใจซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจตามธรรมชาติของมนุษย์ที่สามารถจะสอนศิลปะการรู้วิธีลงทุนและการตัดสินใจที่สามารถที่จะบอกความเป็นตัวเรา และเพิ่มความมั่นใจในการเงินมากขึ้นด้วยความเข้าใจระหว่างเราและเงิน 

 

 

 

 

ข้อมูลจาก : Zipmex  

ภาพจาก : AFP, Zipmex