‘คิม จองอึน’ เตรียมทดสอบขีปนาวุธ ต้อนรับ ‘ไบเดน’ นั่งปธน.สหรัฐ

วันนี้ ( 27 พ.ย. 63 ) นายคิม จองอึน คือหนึ่งในผู้นำประเทศเพียงไม่กี่คนที่ยังไม่ได้แสดงความยินดี หรือแม้กระทั่งแสดงการรับรู้ ว่านายโจ ไบเดนที่ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดที่เกาหลีเหนือจะยังสงวนท่าทีกับผลการเลือกตั้งสหรัฐ โดยเฉพาะเมื่อ นายคิม จองอึน ได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลายต่อหลายครั้งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างผู้นำสองชาติ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ด้วยชัยชนะของนายไบเดน ความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิมอันแสนเย็นชาเหมือนสมัยในยุคของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งสหรัฐฯใช้นโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ (strategic patience) โดยไม่เต้นไปกับการยั่วยุของเกาหลีเหนือ และนโยบายดังกล่าวใช้มตั้งแต่ปี 2011 ที่นายคิม จองอึนขึ้นสู่อำนาจ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเกาหลีเหนือ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำ โอบามาหรือทรัมป์ เกาหลีเหนือก็ยังเดินหน้าเสริมแสนยานุภาพอยู่และข่มขู่ว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือนั้นสามารถยิงไปได้ไกลถึงแผ่นดินสหรัฐฯ

ซู คิม นักวิเคราะห์นโยบายจากแรนด์ คอร์ป ระบุว่า ไม่ว่าผู้นำสหรัฐฯจะเป็นใคร เกาหลีเหนือไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือยุทธศาสตร์ไปกับสหรัฐฯ อาวุธนิวเคลียร์ก็ยังจะคงอยู นายคิมจะยังคงเดินหน้าพัฒนาและขู่ต่อไป เพราะแนวทางนี้ของเกาหลีเหนือใช้ได้ผลมาหลายทศวรรษ

ทั้งนี้ หลังนายโอบามาเข้ารับตำแหน่งในปี 2009 ไปไม่กี่เดือน เกาหลีเหนือทดสอบเขาด้วยการเปิดตัวขีปนาวุธพิสัยไกลและอุปกรณ์นิวเคลียร์ ในขณะที่นายทรัมป์ได้รับการต้อนรับสู่ทำเนียบจากเกาหลีเหนือ ด้วยการยิงทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง และในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 เกาหลีเหนือยังได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือ ICBM ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ไปทั่วอาณาบริเวณของสหรัฐฯด้วย

ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อนายไบเดนเข้ารับตำแหน่ง จึงมีความเป็นไปได้ว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบขีนปนาวุธ ICBM เวอร์ชั่นใหม่อีก รวมไปถึงขีปนาวุธใหม่ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายลูที่เกาหลีเหนือเพิ่งนำมาแสดงในพิธสวนสนามเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

เมลิสซา ฮันแฮม รองผู้อำนวยการของ Open Nuclear Network มองว่า เกาหลีเหนือจะเป็นต้องทดสอบไอซีบีเอ็มตัวใหม่ เพื่อแสดงเหล่าศัตรูได้เห็น และคาดวาเกาหลีเหนือจะทดสอบเมื่อพร้อม สิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการคือ บีปนาวุธไอซีบีเอ็มของพวกเขานั้นต้องแม่นยำเพียงพอที่จะยับยั้งสหรัฐฯได้

 

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือมองว่า อาวบุธนิวเคลียร์คือสิ่งรับประกันในการปกป้องพวกเขาจากการโจมตีของสหรัฐฯ และประกาศว่าจะยังคงรักษามันไว้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา นายคิมได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลนายทรัมป์มาโดยตลอด ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง ตรวจสอบได้ และไม่สามารถกลับมาทำได้ ก่อนที่จะได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนจากสหรัฐฯ

ขณะที่นายไบเดนนั้นได้ส่งสัญญาณว่ายังมีพื้นที่สำหรับการเจรจา แม้นายไบเดนจะเรียกนายคิมว่าเป็น “อันธพาล” ระหว่างการดีเบตกับการทรัมป์ก็ตาม แต่เขาก็บอกว่าสามรถพบเจอกับผู้นำเกาหลีเหนือได้ หากเขายอมลดอาวุธนิวเคลียร์

ด้านนายแอนโทนี บลินเคน ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรับฯคนใหม่ เคยเรียกนโยบายส่วนตัวของนายทรัมป์ว่าคือความ “ล้มเหลว” โดยตัวนายบิลเคนเอง สนับสนุนแนวทางพหุพาคีในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ทีละขั้นตอน

 

ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ว่า นายคิมจะส่งสัญญาณบางอย่างต่อรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ในการแถลงเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งถือเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ทางการเมืองที่ใหญ่และสำคัญสุดประจำปีของผู้นำเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่นายไบเดนจะเข้าพิธีสาบานตน เกาหลีเหนือจะมีการจัดประชุมสภาพรรคคนงานเพื่อออกแผนพัฒนาประเทศในระยะห้าปี และมีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจเกาหลีเหนือติดลบมากที่สุดในรอบมากกว่าสองทศวรรษ จากมาตรการคว่ำบาตร การระบาดของโควิด-19 และภัยธรรมชาตินั่นเอง

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline