สศค.ขยับเกณฑ์สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ลดต้น-ดอกเหลือร้อยละ 33 /ปี

วันนี้ (4 พ.ย.64) น.ส.สภัทร์พร ธรรมาภรณ์พิลาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเงินสดแบบถูกกฎหมาย ที่เป็นรายย่อยระดับจังหวัด หรือ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ให้ความร่วมมือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ให้กับลูกหนี้ คือ การลดค่างวด การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การเปลี่ยนประเภทหนี้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว การพักชำระค่างวด การพักชำระเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน และการพักชำระเงินต้นและลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งสิ้น 329 ราย ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้จำนวน 12,315 บัญชี โดยจังหวัดที่ผู้ประกอบธุรกิจให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา  กรุงเทพมหานคร  และขอนแก่น  

ทั้งนี้ สศค. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ให้สอดคล้องกับการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ย อัตรากำไรจากการให้สินเชื่อ ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมอื่นใด สำหรับการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แบบมีหลักประกันจาก "ร้อยละ 36 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก " เป็น "ร้อยละ 33 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก " 

สำหรับภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2564 มีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจและเปิดดำเนินการแล้ว 1,012 ราย และนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้ว 1,044,352 บัญชี รวมวงเงิน 15,358 ล้านบาท เฉลี่ย 14,706 บาทต่อบัญชี นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ยังร่วมกับหน่วยงานภาคี แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน โดยเฉพาะการดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบผิดกฎหมาย 

ข้อมูล: สศค.

ภาพ: AFP ,TNN Online