TNN online ลุ้นจีดีพีไตรมาส 4/63 หนุนหุ้นไทยไปต่อแค่ไหน

TNN ONLINE

Wealth

ลุ้นจีดีพีไตรมาส 4/63 หนุนหุ้นไทยไปต่อแค่ไหน

ลุ้นจีดีพีไตรมาส 4/63 หนุนหุ้นไทยไปต่อแค่ไหน

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ยังเผชิญความเสี่ยงผันผวนของปัจจัยบวก-ลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลุ้นประกาศจีดีพีไตรมาส 4/63 สศช. ดีเดย์ 15 ก.พ.นี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,500-1,530 จุด

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล. เอเชียพลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าว่า ปัจจัยที่ติดตามมี 5 ประเด็นหลักคือ  การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/63  ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสศช.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้  คาดว่า ติดลบ 4 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  และติดลบ 7.3% หาากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ Bloomberg  Consensus มองว่าติดลบ  5.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3.8% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  เนื่องจากเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์  เช่น ตัวเลขการส่งออกไตรมาส 4/63 ติดลบเพียง 2%  จากเดิมในไตรมาส 3/63  ที่ติดลบถึง 7.8%


สำหรับยอดขายรถยนต์ไตรมาส 4/63 ติดลบเพียง 3.8 % จากเดิมไตรมาส 3/63  ติดลบ 30% ถ้าดีกว่าคาดการณ์จะเป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหลายประเทศประกาศ GDP ออกมาพบว่าดีกว่าคาด หรือใกล้เคียงคาด เช่น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ยุโรป ส่วนใหญ่ปรับขึ้น 0.5-1.3%หรือเฉลี่ย 0.9%   การประุชุมครม.อนุมัติโครงการเรารักกัน โดยให้เงิน 4,000 บาทต่อคนตามมาตรา 33 จำนวน 9.2 ล้านคน ถือเป็น Sentiment บวกต่อดีต่อหุ้นค้าปลีก CRC

  

นอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิคเริ่มปรับตัวลดลงจากเดิมที่ 700-800 คนต่อวัน เหลือต่ำกว่า 200 คนต่อวัน  ขณะที่ประเทศไทยมีโอกาสจะได้ฉีดวัคซีนในปลายก.พ.64 นี้  จะทำให้ต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้น  ส่วนต่างประเทศยังติดตามผู้ติดเชื้อทั่วโลกและพัฒนาการของวัคซีน

 

ขณะเดียวกันหุ้นไทยได้ถูกจัดอันดับอยู่ในชั้น Gold Class ของ The Sustainability Yearbook 2021 มาก สุดในโลก ซึ่งหุ้นในชั้น Gold Claรs ที่มีแค่ 70บริษัท ใน 7,032 บริษัท  ประกอบไปด้วยหุ้นไทยมากสุดในโลกถึง 11 บริษัท ซึ่งเป็นหุ้นที่มี

คะแนนจาก ESG Score สูงกว่า 60 คะแนน และมีอันดับสูงกว่า Percentile ที่ 99 ของหุ้นทั้งหมด ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนประเด็นการเมืองในประเทศต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเป็น 

 Sentment เชิงลบต่อการลงทุนและอาจมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow ทีกำลังไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้  


อย่างไรก็ตาม ด้ชนิตลาดหุ้นไทยยังLaggard มากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอยู่มาก โดยปรับตัวขึ้นเพียง 3.4%mtd ขณะที่ประเทศอื่นๆในภูมิภาคปรับตัวขึ้นระดับ 4.2%-7.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน


ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนนันหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่กำไรปีนี้เติบโตYOY และมีปันผลสูงกว่า 3.5%ต่อปี และหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าต่างชาติจะเข้ามาลงทุน เช่น  PTT SAPPE และ TISCO เป็น Toppicks ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,500-1,530 จุด 


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง