เปิดแนวคิด “อมรา ไทยรัตน์” ปั้นโมเดลใหม่เจาะกลุ่มชุมชน

อาหารญี่ปุ่นถือเป็นเมนูยอดนิยมของผู้บริโภคชาวไทย จนทำให้มีผู้ที่ต้องการสร้างธุรกิจจากอาหารญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก บ้างก้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี บ้างก็แค่พออยู่ได้ แต่บางรายก็ไม่สามารถไปต่อได้

“ไข่หวานบ้านซูชิ” ถือเป็นธุรกิจที่สร้างมาจากอาหารญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากบนเส้นทางธุรกิจ ทั้งเรื่องของยอดขาย และการยอมรับจากผู้บริโภค

เริ่มต้นธุรกิจ

“อมรา ไทยรัตน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจของเธอว่า มาจากการที่เธอได้ทานซูชิจากร้านซซชิเจ้าหนึ่ง ซึ่งเปิดให้บริการในรูปแบบของแฟรนไชส์ด้วย และเกิดความประทับใจในคุณภาพของอาหารและการทำธุรกิจของร้าน เพราะซุชิที่นี่ชิ้นใหญ่ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นในตลาด จึงสามารถดึงดูดให้นักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหาอาชีพที่มั่นคงอย่างเธอ เลือกลงทุนในธุรกิจที่มองด้วยตาก็รู้ว่าดี

ทั้งนี้ กิจการแฟรนไชส์เป็นไปด้วยดีเรื่อยมา ยอดขายในแต่ละวันอยู่ในระดับน่าพึงพอใจสำหรับผู้ประกอบการอย่างเธอ แต่ในทางธุรกิจไม่มีอะไรดีไปตลอด โดย 2 ปีของการเป็นลูกแฟรนไชส์ เธิก็ได้พบกับข้อจำกัดที่ทำให้กิจการเติบโตไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่เธอยังมองว่าไข่หวานบ้านซูชิมีพื้นฐานแข็งแกร่ง เติบโตได้ในระยะยาว เพราะจุดแข็งด้านรสชาติยังครองใจลูกค้าเหนียวแน่น รวมถึงมีคนสอบถามเรื่องการขอซื้อแฟรนไชส์ตลอดเวลา เธอเชื่อว่าธุรกิจไปไกลกว่านี้ได้ หากมีระบบระเบียบในการบริหารจัดการที่ชัดเจนขึ้น เธอจึงติดต่อเจ้าของเพื่อขอซื้อกิจการมาบริหารเองทั้งหมด

“การเจรจาซื้อกิจการเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะเจ้าของเดิมคิดจะปล่อยธุรกิจให้คนอื่นมาบริหารต่อ เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวหลายประการ ตนเป็นลูกแฟรนไชส์สาขาแรก ๆ จึงสนิทกันเหมือนพี่น้อง ประกอบกับความมั่นใจว่า ธุรกิจทางบ้านของตนจะช่วยสนับสนุนด้าน Marketing และ Branding ให้กิจการนี้พัฒนาต่อไปได้”

กางแผนปี 2567

อมรา บอกถึงแผนการทำธุรกิจปี 67 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายขยายสาขาให้ได้ 300 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 260 สาขา และเปิดตัวโมเดลใหม่คือ “ไข่หวานบ้านซูชิ Go” แฟรนไชส์ขนาดเล็กที่ใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าเข้าถึงตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ ได้แก่ ซอสโชยุ ออกวางจำหน่ายและแผนขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในประเทศจีน เนื่องจากจีนชื่นชอบอาหารทะเลเป็นอย่างมาก โดยมองว่าซูชิก็น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

“เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ร้านอาหารญี่ปุ่นเข้าถึงยากและมีราคาที่สูง จึงอยากตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอีกหลายๆ กลุ่มให้สามารถหาทานได้ง่าย ราคาจับต้องได้ และเข้าถึงทุกเพศทุกวัย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 10-45 บาท มากกว่า 100 ประเภท และการเลือกเปิดแบรนด์นี้เพราะมองเห็นช่องทางธุรกิจที่บริหารและจัดการได้ง่าย ไข่หวานบ้านซูชิให้ความสำคัญกับมาตรฐานวัตถุดิบ และการดูแลใส่ใจกลุ่มลูกค้า จึงทำให้สร้างฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น”

จุดแข็งคือ ระบบ แฟรนไชส์ที่มีการวางมาตรฐานอย่างเข้มงวดตั้งแต่การคัดเลือกผู้เข้าร่วมลงทุน การจัดอบรมเพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะที่จำเป็น ไปจนถึงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนเริ่มต้นหลักแสนบาท และไม่มีการเก็บส่วนแบ่งกำไร หรือค่า GP เพิ่ม จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์แฟรนไชส์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเฉลี่ย 30-50% ต่อปี อีกทั้งระบบยังช่วยลดการทุจริต ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการบริหารธุรกิจ

“จุดแข็งของธุรกิจนี้คือทำเลที่ตั้ง ซึ่งจะมีทั้ง สแตนด์อะโลน , ตลาด , คอมมูนิตี้มอลล์ ,ปั๊มน้ำมัน และห้างสรรพสินค้า เพราะมองแนวโน้มในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ตอนนี้ไข่หวานบ้านซูชิมีพาร์ทเนอร์ เป็นแม็คโคร โลตัส และบางจาก โดยปัจจุบัน บางจากเข้าซื้อ เอสโซ่ ทำให้มีสาขาที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยกลุ่มลูกค้าที่ตรงกัน ทำให้มีโอกาสในการขายได้มากขึ้น”

อาหารญี่ปุ่นแนวโน้มเติบโต

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ก็มีปัจจัยที่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง เช่น นโยบายปรับขึ้นค่าแรง อาจเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ และธุรกิจบริการอาหารญี่ปุ่นยังต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาด

.

ปัจจุบันเทรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นยังเป็นที่ต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นสามารถรับประทานได้ทั้งอาหารหลัก และอาหารทานเล่น ทำให้ทานได้ทุกวันหรือแทบจะเป็นอาหารที่สองรองจากอาหารไทย ซึ่งไม่เหมือนกับร้านชาบูหรือร้านปิ้งย่าง ที่ไม่สามารถรับประทานได้ทุกวันนี้คือข้อได้เปรียบของซูชิ

อีกทั้งตอนนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ไข่หวานบ้านซูชิ ก็ตอบโจทย์ เนื่องจากวัตถุดิบเป็นปลาแซลมอน ซึ่งผู้ที่ออกกำลังกายชอบทานเป็นอย่างมาก จึงเห็นเทรนด์ตรงนี้ และได้ขยายเมนูอาหารเพื่อตอบโจทย์ เช่น ยำสาหร่าย สลัดปลาแซลมอน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ การควบคุมมาตรฐานของวัตถุดิบ และการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ให้สามารถกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีรายได้รวม 80-90 ล้านบาท มีกำไรประมาณ 30 % เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีรายได้ 65 ล้านบาท กำไรราว 10 ล้านบาท