TNN online แนวโน้ม "เงินบาทแข็งค่า" แตะ 34.00 บาท/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้

TNN ONLINE

Wealth

แนวโน้ม "เงินบาทแข็งค่า" แตะ 34.00 บาท/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้

แนวโน้ม เงินบาทแข็งค่า แตะ 34.00 บาท/ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้

กสิกรไทย คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ กดเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าและเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้

กสิกรไทย คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้  กดเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าและเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ที่  34.00  บาทต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้  

นายกอบสิทธิ ศิลปชัยผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงมุมมองของตลาดการเงินต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดว่า ส่วนใหญ่มองว่าดอกเบี้ยเฟด อยู่ในทิศทางขาลง โดยคาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง และภายใน 1 ปีนี้จะปรับดอกเบี้ยลดลงรวมร้อยละ 1.36 จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเฟดอยู่ทีร้อยละ 5.25-5.50


ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1 ปี ธนาคารกลางยุโรปจะปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงรวมร้อยละ 1.4 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าจะปรับลดลงช่วงครึ่งหลังของปีนี้


ในมุมมองของธนาคารกสิกรไทยคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าลง และกดดันให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยคาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ จากที่มองว่าในอีก 1 เดือนข้างหน้านี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 35.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์


สอดคล้องกับทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งกสิกรไทยประเมินว่า ช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 นี้ ทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายมีโอกาสไหลออกมากกว่าไหลเข้า แต่คาดว่าช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้หากเฟดส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยชัดเจนมากขึ้น คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าไทยและเอเชียมากขึ้น


สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย นายกอบสิทธิระบุว่าอาจปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งปัจจัยหลักที่จะกดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายคือ ค่าเงินบาทแข็งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าหากเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้แตะระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ จะมีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพราะหากปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากเกินไป จะกระทบต่อภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละ 2.5 ในปี 2566 และในกรณีฐานเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะเติบโตอยู่ที่รร้อยละ 3.1 แต่หากรวมโครงการดิจิทัล wallet การเติบโตจะอยู่ที่ร้อยละ 3.6



ภาพจาก TNN Online

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง