TNN online "Facebook-Line" ครองแชมป์โซเชียลมีเดียที่คนไทย นิยมใช้มากที่สุด!

TNN ONLINE

Wealth

"Facebook-Line" ครองแชมป์โซเชียลมีเดียที่คนไทย นิยมใช้มากที่สุด!

Facebook-Line ครองแชมป์โซเชียลมีเดียที่คนไทย นิยมใช้มากที่สุด!

ธนาคารกรุงไทย เผยคนไทยเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตแตะ 61.2 ล้านคน ใช้ Social Media 52.3 ล้านคน โดย "เฟสบุ๊ค-ไลน์" อันดับหนึ่งหนุนธุรกิจซื้อของออนไลน์พุ่ง

Krungthai Compass ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยมีจำนวนผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต 61.2 ล้านคน ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 13.7 ล้านคน จาก 47.5 ล้านคนในช่วง 5 ปีก่อนหน้า และมีจำนวนผู้การใช้โซเชียล มีเดีย 52.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรอบ 5 ปีหลังสุด โดยมีแรงผลักดันทั้งจากการดำเนินงานของผู้ให้บริการและการส่งเสริมของภาครัฐ

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ไทยมีความเร็วของอินเตอร์เน็ต อยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก โดยข้อมูลจาก Ookla ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต ระบุว่า ประเทศไทยมีความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดข้อมูลด้วย บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ประจำที่ (Fixed Broadband) เร็วที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นรองเพียง ชิลี จีน และสิงคโปร์ ขณะที่โมบาย อินเตอร์เน็ต ของไทยมีความเร็วเป็นอันดับที่ 15 ของโลก 

สำหรับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีจำนวนผู้ใช้โซเชียล มีเดีย เพิ่มขึ้นจาก 51 ล้านคน ในปี 2562 มาอยู่ที่ 52.3 ล้านคน ในปี 2566 หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด โดย เฟสบุ๊ค และไลน์ ยังคงเป็นโซเชียล มีเดีย ยอดนิยมของคนไทย ขณะที่ Tiktok เริ่มมีแรงใน 1-2 ปีหลัง ทั้งนี้ ผู้ใช้โซเชียล มีเดีย ในช่วงอายุ 34-44 ปี 45-54 ปี และ 55 ปีขึ้นไป ดูเป็นกลุ่มที่สนใจ เนื่องจากมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

และด้วยพฤติกรรมของคนไทยคงนิยมใช้อินเตอร์เน็ต และโซเชียล มีเดีย ทำให้ผู้ประกอบการหันมาทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เห็นได้จากเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ที่ขยายตัวต่อเนื่องปีละร้อยละ 12.4 โดยข้อมูลจากสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) ชี้ว่ามูลค่าการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์มีการขยายขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละร้อยละ 12.4

ทั้งนี้ คนไทยยังคงนิยมการซื้อสินค้า/บริการผ่านออนไลน์ โดยมีการประเมินว่าตลาด E-Commerce ในช่วงปี 2566-2567 จะมีมูลค่า 6.34-6.94 แสนล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยที่ปีละร้อยละ 6

โดยหมวดสินค้าที่ผู้บริโภคหันมาซื้อผ่านช่องทาง E-Commerce มากขึ้นในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.กลุ่มดูแลส่วนบุคคุลและครัวเรือน ซึ่งครอบคลุมสินค้าในหมวด ความงานและสุขภาพ 

2.กลุ่มเครื่องดื่ม ที่มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น จากราว 22,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 126,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2562-2566 และ 3.กลุ่มอาหาร ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 11,500 ล้านบาท ในปี 2562 ขึ้นมาอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท ในปี 2566


ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง