หุ้นไทยลุ้นติดตาม 2 ปัจจัย

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า

การเจรจาเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ จะยังเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศภาพรวม ดัชนีค่าเงินสหรัฐฯ (Dollar Index) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ จากข่าวสารที่เข้ามาในช่วงนี้ ได้แก่ 1) การเลื่อนการพูดคุยระหว่างประธานาธิปดีไบเดน และประธานสภาผู้แทนราษฎรแมคคาร์ธี ในขณะที่เหลือเวลาไม่มากก่อนถึงวันที่สหรัฐฯ อาจไม่เหลือเงินคงคลัง 

2) IMF มองการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวขึ้น 

3) JP Morgan ตั้ง "วอร์รูม" ขึ้น เพื่อรับมือกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ โดยจะปรับจากประชุมรายสัปดาหืเป็นรายวันตั้งแต่ 21 พ.ค. และจะเพิ่มเป็น 3 ครั้ง/วัน หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังลุ้นภาพใหญ่เป็นการเคลื่อนไหวออกข้างที่มีกรอบการฟื้นตัวด้านบนในระดับ 1,600-1,650 จุด โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,570-1,580 และแนวรับที่ 1,540-1,550 จุด เน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned)

หุ้นแนะนำ: PTG*, BJC, MAJOR*, SAMART*

ด้าน บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดวันนี้มองภาพตลาด “Sideways/Up”  มองโครงสร้างรายกลุ่มกลุ่ม Global Plays (พลังงาน, ชิ้นส่วนฯ) ราคาหุ้นผ่านช่วงสะท้อนภาพกำไร 1Q23 และแนวโน้ม 2Q23 ไม่สดใส ช่วยจำกัด Downside ขณะที่หุ้น Domestic หลักๆ (ธนาคาร ค้าปลีก สื่อสาร เช่าซื้อ โรงไฟฟ้า High Growth) ยังมีภาพบวกกระแสวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปลายทาง ผสาน แนวโน้มผลประกอบการระยะถัดไปเด่นขึ้น และ กระแสการเลือกตั้งคึกคัก เชื่อหนุนประสิทธิภาพระบบตัวแทนต่อเศรษฐกิจภายในระยะถัดไป  ถือเป็นภาพหลักที่หนุนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน ลุ้น GDP ปี 23-24 เติบโตสูงกว่าระดับศักยภาพที่ปีละ 3%  และยังมีข้อดีที่เริ่มเห็นภาพบวกส่งผ่านมายังกำไรตลาดที่เห็นภาพฟื้นตัว 1Q23 ที่จะเห็นพัฒนาการต่อเนื่องเช่นเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจ มองเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้  อิง ERP เฉลี่ย 3.35%  โดยยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ

1)หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ให้รอจังหวะสะสม ( AOT, AMATA,  WHA, CENTEL, ERW, SISB, SIRI, SPA)  

2)หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC,  AMATA,  BBL, KBANK, SCB, SAWAD, TIDLOR)

3)Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC, SC, SIRI, PR9, GLOBAL) 

4)Summer Play (OSP,  ICHI, SAPPE,  HMPRO, CRC) 

5)หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไร 1Q23F เด่นหรือเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวและระยะถัดไปมีแนวโน้มเด่น (ICHI, CPALL, TOA, SC, MAKRO, ADVANC, GPSC, OSP, CRC , OR, SCGP, BE8, BBIK)

6) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC)

7)หุ้นในธีม School Reopening Plays เก็งกำไรกลุ่มเช่าซื้อ ค้าปลีก (AEONTS, MAKRO)