TNN online จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

TNN ONLINE

ไทยลีก

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

TNNSPORTS ขอพาแฟนๆฟุตบอลไทยไปรู้จักกับ "เจ" พงษ์เพ็ญ เหมเปา อดีตนักฟุตบอลอาชีพ ที่พลิกโชคชะตา หลังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ทิ้งสิ่งที่ตนเองรัก มุ่งหน้าพัฒนาตัวเองในงานฝึกสอน จนเริ่มมีชื่อเสียงและกำลังจะได้ทำงานกับตำนานนักเตะทีมชาติไทยในอะคาเดมี่เวลานี้

อาชีพนักฟุตบอล คือ "หมาล่าเนื้อ" นักเตะระดับท็อปหรือโค้ชหลายๆคนเคยพูดเอาไว้ แน่นอนว่าปัจจุบันพ่อค้าแข้ง เป็นอีกหนึ่งงานในฝันของบรรดาชายไทยทั้งหลาย เนื่องจากเงินเดือนค่อนข้างสูง ทว่าหากคุณไม่ได้ขึ้นมาเป็นตัวระดับท็อป หรือมีชื่อเสียงของวงการ มันก็อาจจะไม่ง่ายอย่างที่ใครต่อใครคิด


บางคนอาจจะฉายแววตั้งแต่เด็ก มีพรสวรรค์ แต่ก็โตขึ้นมาแล้วเลือกที่จะเดินทางไม่ถูกต้อง หลงมัวเมากับสิ่งเรา หรืออบายมุขต่างๆ ที่เข้ามาเป็นตัวขัดขวางความก้าวหน้าในอาชีพ หรือบางคนแล้ว ก็อาจมีโอกาสได้โลดแล่นตามความฝัน คำว่า หมาล่าเนื้อ ในที่นี้หมายถึง เราจะมีโอกาสได้เก็บโกยความสำเร็จ ชื่อเสียงเงินทอง หรือคำยกย่องต่างๆ ไปในระยะหนึ่งเท่านั้น หากเราไม่สามารถรักษาระดับที่เสถียรเอาไว้ได้ตลอดนั่นเอง


คนทุกคนมีความฝันที่ต้องการจะทำให้ได้ แต่ระหว่างทางต้องเจออุปสรรคมากมาย นักฟุตบอลก็เช่นกัน หากคุณไม่ใช่ตัวท็อป ไม่ได้เป็นเบอร์ต้นๆหรือกลางๆของตลาดนักเตะ ยามหมดสัญญา คุณก็ต้องทำทุกทางเพื่อหาทีมใหม่ในการเล่น อาชีพนักเตะ มันก็เปรียบเสมือนพนักงานบริษัทคนหนึ่งนั่นแหละ ต้องมาทำงาน ต้องมาฝึกซ้อม ยามลงแข่งขันก็คือการออกหน้างาน หลายคนไปถึงฝันจนขึ้นไปเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าของประเทศ ได้เล่นกับสโมสร มีเงินเดือนที่มั่นคง สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ สามารถต่อเติมความฝันของตัวเองได้ 


แต่อีกหลายๆคน ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะ "ฟุตบอลไม่เลือกคุณ" วันนี้ TNNSPORTS จะพาไปคุยกับ "เจ" พงษ์เพ็ญ เหมเปา อีกหนึ่งอดีตนักฟุตบอลดีกรีระดับท็อปของฟุตบอลนักเรียน และเคยโลดแล่นในฟุตบอลอาชีพระดับลีกภูมิภาคอยู่ช่วงหนึ่ง ทว่าโชคชะตาก็ไม่สามารถนำพาให้เขาไปสู้จุดมุ่งหมายได้ ที่สุดแล้ว เพื่อนสนิทและครูบาอาจารย์หลายๆท่านต่างหาก ที่ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ทิ้งฟุตบอล และตามฝันต่อมาจนถึงทุกวันนี้ จนมีวลีประจำตัวว่า "ถึงฟุตบอลไม่เลือกคุณ แต่คุณสามารถเลือกฟุตบอลได้" และนี่ คือส่วนหนึ่งที่เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์เจ้าตัวครับ ....

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน


Q : สวัสดีครับเจ อันดับแรกอยากให้เจ แนะนำตัวให้แฟนๆได้รู้จักหน่อยครับ

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : สวัสดีแฟนๆกีฬาทุกคนนะครับ ผมชื่อ "เจ" พงษ์เพ็ญ เหมเปา เป็นคน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปีนี้อายุ 29 ปีแล้วครับ


Q : เริ่มสนใจกีฬาฟุตบอลและหลงรักมันตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำไมจึงชื่นชอบครับ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : เท่าที่ผมจำได้ ตอนผมอายุ 9 ขวบ ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายอะเนอะ เห็นเพื่อนๆเตะฟุตบอลที่โรงเรียน เราก็อยากเล่น แต่ข้อเสียของผมคือ ผมเป็นเด็กอ้วน ก็เลยไม่ค่อยมีพื้นที่ให้ผม ผมขอเงินพ่อซื้อลูกฟุตบอล มาฝึกซ้อมเอง ทำทุกอย่าง เตะอัดกำแพง เลี้ยงบอล ฯลฯ เท่าที่จะทำได้ เวลาทีมโรงเรียนฝึกซ้อม ผมก็ขออาจารย์ไปซ้อมด้วย คือมันเหมือนว่าซึมซับมาตลอดครับ เวลาไปไหนมาไหน ถ้าเจอการแข่งขันในระดับบอลหมู่บ้าน , บอลอำเภอ หรือบอลจังหวัด ผมจะบอกให้พ่อจอดดูทันที เพราะต้องการจะดูทักษะความสามารถของคนอื่นและนำมาปรับใช้ครับ หลังจากนั้นพอเริ่มเก่งขึ้น ก็ได้รับการยอมรับจากคนอื่นมากขึ้น จนได้เป็นนักเตะของ โรงเรียนโรงเรียนรัตนราษฎร์บํารุง อยู่จนถึง ม.1 ครับ


Q : หลังจากนั้นเราเริ่มขยับเข้าสู่การเล่นฟุตบอลจริงจังเลยมั้ย ? 

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ผมมีโอกาสได้ไปคัดตัวกับโรงเรียนดรุณากาญจนบุรี ครับ และก็ก้าวขึ้นไปเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนได้ ผมเล่นในตำแหน่งกองกลาง ครูบาอาจารย์สองคนแรกคือ อ.อดุลย์ แจ่มแจ้ง และ อ.พิษณุ ถิ่นทุ่งทอง ทั้งสองท่านผลักดันและให้ความรู้ทุกอย่างกับผม ผมจากบ้านที่ ราชบุรี มาเพื่อตามความฝันเลยครับ


Q : สร้างผลงานอะไรให้กับโรงเรียนในระดับ ม.ต้น และตัวเองบ้าง ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ผมเคยเล่นกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 24  ที่จ.อุบลราชธานี ได้แชมป์ ตอนนั้นไปในนามตัวแทน จ.กาญจนบุรี  , แล้วก็กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 25 เมืองกาญเกมส์  ได้รองแชมป์ครับ เพื่อนร่วมทีมผมที่ดังทะลุฟ้าไปแล้วในตอนนี้ก็คือ ชุติพนธ์ ทองแท้ กับ นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ , ชิงแชมป์ประเทศไทย ก็เคยแข่งร่วมทีมกับ ภิญโญ อินพินิจ เข้ารอบสอง นอกจากนี้ก็ยังมี ฟุตซอล J Press Junior ได้ที่ 3 ในระดับประเทศครับ


Q : หลังจบ ม.3 เราเลือกที่จะเล่นฟุตบอลต่อมั้ย แล้วเดินทางอย่างไรต่อ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : แน่นอนครับ ผมกับเพื่อนอีกหลายคนไปคัดตัวที่ โรงเรียนพาณิชยการราชดําเนิน เพราะที่นี่เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องฟุตบอลมาก ผมคัดเข้าไปได้ และได้พบกับรุ่นพี่นักฟุตบอลมากมาย และได้เล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่มากขึ้นเลยแหละครับ


Q : ตอนนั้นเรามีความฝันกับฟุตบอลอย่างไร ? จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ถ้าเอาเพ้อๆ ก็อยากติดทีมชาตินะครับ ชุดเยาวชนก่อน แล้วค่อยก้าวขึ้นไป อยากเล่นฟุตบอลอาชีพ เพราะตอนนั้นผมเริ่มมีดีกรี และก็เห็นรุ่นพี่หลายๆคน ผมได้ที่ 3 ฟุตบอลพระราชทาน ก กับ อันดับ 3 ฟุตบอลถ้วย ซิโก้ ที่ จ.ขอนแก่น ตอนเรียนที่ ราชดำเนินครับ


Q : เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวผมให้เจ เล่าแบบยาวๆเลยดีกว่าครับ เหมือนซักประวัติเลยละกัน ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ครับ หลังจากนั้นผมจบการศึกษาระดับ ปวช. ก็ไปเร่คัดตัวเพื่อเข้าทีมเยาวชนของหลายๆสโมสร เท่าที่จำได้ มีทั้ง การท่าเรือ , พีทีที ระยอง ฯลฯ แต่ผมก็คัดที่ไหนไม่ติดเลย ขณะที่เพื่อนๆรุ่นเดียวกัน ติดกันครบทุกคน บางคนก็คัดหลายทีมนะครับ ปัญหาของผมก็มีบ้างในการไปคัดตัว เพราะทางบ้านไม่ได้ถือว่าฐานะดี การเดินทาง , การต้องไปหาที่พัก มีค่าใช้จ่าย ผมจึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านก่อนเป็นการตั้งหลัก มีโอกาสเล่นบอลเดินสาย เวลาโฆษกประกาศที เค้าก็จะฮือฮากันครับ ดีกรีแชมป์เยาวชน , ชิงแชมป์ประเทศไทย เอาเป็นว่าผมได้แชมป์เยอะและบ่อยมาก จากนั้นผมไล่ล่าความฝัน ขอเข้าไปเทสต์ซ้อมกับ ราชวิถี , ปราจีน ยูไนเต็ด , สมุทรปราการ สองสิงห์ ในระดับไทยลีก 4 (ลีกภูมิภาค) แต่ สมุทรปราการ สองสิงห์ ปีนั้นได้ไปขอสิทธิ์ สโมสร ฮาก้า เอฟซี เพื่อที่จะเล่นถ้วยพระราชทาน ข พอจบรายการ  ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เล่นฟุตบอลอาชีพ จึงกลับมาเดินสายต่อ และผมก็มีโอกาสกับอีกหนึ่งสโมสร คิอ นักบุญเปรโต รึ เรียกกันว่า ทวีวัฒนา เอฟซี ผมไปคัดตัว เเละผ่านการคัดเลือก ส่งเล่นรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ ได้ไปเยือน ตรัง เอฟซี แมตช์นั้นผมได้เป็นกัปตันทีม ผมดีใจมากๆครับ ต่อมาผมก็ยังเดินทางตามความฝันในการไปคัดกับอีกหลายสโมสร จนได้เป็นผู้เล่นของ สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี เมื่อปี 2558 เชื่อมั้ยครับว่ามันเป็นสโมสรสุดท้ายที่ผมจะไปคัด เพราะถ้าที่นี่ไม่ติด ผมจะเลิกเล่นแล้วไปหางานประจำอย่างอื่นทำ ก็เล่นที่นี่ได้ 1 เลก ทางสโมสรมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ก็ตัดนักเตะเก่าออกถึง 11 คน ผมเป็นหนึ่งในนั้น 


Q : ช่วงที่เล่นอาชีพครั้งแรก เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ทั้งในเรื่องของการฝึกซ้อม การแข่งขัน และกระแสตอบรับของแฟนบอล

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : เป็น 6 เดือนที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิตครับ ผมได้เป็นนักฟุตบอล มีเงินเดือน ส่งให้ที่บ้าน ได้ลงแข่งขัน ความเอ็นดูจากแฟนบอล แม้จะเป็นทีมเล็กๆ แต่อบอุ่นมาก ถึงขนาดที่ว่า ผมเดินตลาดกับพี่ๆในทีม ผมได้ของกินกลับมากินได้ทั้งวัน ไม่ต้องเสียเงินซื้อ มีแต่คำชม ความคาดหวังว่า ช่วยพาทีมเราขึ้นดิวิชั่นให้ได้ ไปให้ไกลที่สุด อยู่กับพวกเรานานๆนะ มันเป็นความสุขที่ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆครับ


Q : เส้นทางของเรา เดินต่อในระดับฟุตบอลอาชีพมั้ยครับ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ผมก็ทำทุกทางนะ เดินทางไปคัดเลือก แต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ผมท้อมาก คุยกับ ชุติพนธ์ ทองแท้ เพื่อนสนิทของผมอยู่ตลอด ปรับทุกข์กันอยู่ร่ำไป ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ที่พูดกับผมมาคำนึงแล้วทำให้ผมมีแรงสู้ทันที คือ "ถึงฟุตบอลไม่เลือกมึง แต่มึงสามารถเลือกฟุตบอลได้นะ" นั่นแหละครับ ผมกลับมานอนคิด ถ้าเราเป็นนักเตะไม่ได้ มันมีอะไรในวงการที่เราทำได้อีกบ้าง เพราะทั้งชีวิตเราก็อยู่กับลูกกลมๆมีลมอยู่ข้างในมาตลอด ผมจึงเลือกที่จะไปอบรมโค้ชในระดับ Intro หวังที่จะมาสอนฟุตบอลเด็กๆครับ


Q : เริ่มงานโค้ชยังไงครับ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ต้องบอกเลยว่าผมโชคดีมาก  "โค้ชรุต" นิธิชัย แช่มช้อย อดีตนักฟุตบอลจากโอสถสภา ได้ชักชวนผมไปสอนฟุตบอลที่ ภูริ อะคาเดมี่ ของพี่เขา จากนั้นก้ออยู่กับโค้ชรุต หนึ่งปี และก้อได้มาเปิดสอนที่บ้านเกิด อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อีกหนึ่งปี (ของตัวเอง วัดโก อคาเดมี) จากนั้นก้อไปช่วยรุ่นพี่ อย่าง อัครเดช สาวสุชาติ (อดีตผู้รักษาประตู องค์กรโทรศัพท์และนครปฐม) สอนฟุตบอลเด็ก บ้านโป่ง จูเนียร์ ประมาณ 2-3ปี และก็โยกย้ายไปที่ภาคเหนือตอนบน ไปสอนฟุตบอลโรงเรียนปิยมิตรวิทยา อำเภอ เชียงคำ จ.พะเยา 1 ปี จากนั้นก็กับมาสอนที่ โรงเรียนพลอยจุตรจินดา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จนตอนนี้ผมเข้ามาสอนอยู่กับ พี่ตั้ม นิรุจน์ สุระเสียง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เตรียมเปิดอะคาเดมี่ NIRUT SOCCER BANPONG ในวันที่ 4 ก.ค. 63 นี้ครับ


Q : การมาสอนฟุตบอลเด็กๆ ต่างกับตอนที่เราเป็นนักเตะมั้ยครับ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ต่างมากครับ ตอนเราเล่น เราก็เป็นผู้รับ แต่มาทีนี้ เราก็เป็นผู้ให้ เราให้ทุกอย่างกับเด็กๆ มันเป็นความภาคภูมิใจนะ บางคนเราทำเขาขึ้นมาจากเตะฟุตบอลไม่เป็นเลย แปบอลยังไม่ตรงเลย ฝึกเขาขึ้นมาจนเขาเป็นตัวโรงเรียน ไปคัดตัวติดโรงเรียนดังๆ ผมดีใจนะ 


Q : สอนอะไรกับเด็กๆบ้าง ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ทุกอย่างครับ ทั้งในและนอกสนาม ผมพูดกับเด็กๆอยู่เสมอ เพราะผมสอนตั้งแต่ 5 ขวบ - 15 ขวบ ว่า สิ่งดีๆ จำแล้วนำไปใช้ สิ่งไม่ดีอย่านำไปใช้ ฟุตบอลเป็นอาชีพที่เลี้ยงพวกคุณได้ สามารถทำให้คุณมีชื่อเสียงเงินทอง เกียรติยศต่างๆ เดินทางให้ถูกต้อง ทำตามความฝันพี่ด้วย พี่เองไม่ได้มีโอกาสดีเหมือนพวกเรา พวกเรามีคุณพ่อคุณแม่ ที่เสียเงินส่งมาเรียนกับพี่ เรามีโอกาสกว่าพี่เยอะมาก ทุกวันนี้มีหลายโครงการหลายเวที โอกาสของทุกคนเปิดกว้างมาก


Q : การสอนฟุตบอล มีอะไรมากกว่าการวิ่ง และลงทีมเตะ ?

เจ : แน่นอนครับ เรามีการเขียนโปรแกรมการฝึกซ้อม มีการสอนทักษะทุกอย่างจากทีมงานมืออาชีพ ตั้งแต่การอบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย ทักษะเบื้องต้น การเล่นในสนาม การกระตุ้น การสร้างเป้าหมาย เป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้เด็กๆมีความกระหายและสร้างความฝันตัวเองครับ


Q : มีอะไรอยากจะบอกกับ ชุติพนธ์ ทองแท้ มั้ยครับ ในฐานะที่เป็นคนปลุกเราให้สู้ต่อ ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : ผมคุยกันตลอด วันที่บอลติดทีมชาติก็โทรบอกผม บอกว่าผมต้องไปดูเขานะ ไม่ว่าเขาจะอยู่ราชบุรี หรือไปอยู่สุพรรณบุรี ในทุกสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน เขาจะต้องชวนผมไปดู เรารู้จักกันมานาน ผมยินดีกับเพื่อน ที่เป็นมากกว่าเพื่อน มันเหมือนครอบครัวพี่น้อง ขอบคุณที่ทำให้ผมยังไม่ทิ้งตรงนี้ ขอบคุณที่รักกันมาตลอด ขอให้เพื่อนโชคดี ประสบความสำเร็จกับอาชีพ วันที่โทรมาบอกผมว่าติดทีมชาติ ผมดีใจแทน ผมใจสั่นนะ เอาตรงๆ คือแบบเพื่อนเรามาไกลขนาดนี้ และก็ไม่เคยลืมเรา แนะนำเรากับทีมนู้นทีมนี้มาตลอดในการเล่นฟุตบอล ไม่มีอะไรจะบอกไปมากกว่า "รักมึงว่ะบอล"


Q : พี่ตั้ม นิรุจน์ สุระเสียง เป็นคนอย่างไรบ้าง รู้สึกอย่างไรที่จะได้มาร่วมงานกัน ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : พี่ตั้มดีมากครับ อัธยาศัยดีมาก สุภาพมาก ภาพในสนามแกจะเหมือนดุๆ ปะทะหนัก แต่นอกสนามแกมีความเป็นมืออาชีพ ผมโชคดีที่เขาไม่ลืมผม มันเป็นคอนเนคชั่นจากการเป็นรุ่นน้องที่ พาณิชยการราชดำเนิน ดีใจที่พี่ไม่ลืม คือเราก็เห็นหน้าเห็นตากันมานาน เพราะเป็นคนบ้านโป่งเหมือนกัน ก็จะพยายามใช้ขีดความสามารถทั้งหมดที่มี ช่วยพัฒนาเด็กๆอะคาเดมี่ และทำงานอย่างเต็มที่ที่สุดครับ


Q : ถ้าอยากจะมาเรียนกับโค้ชเจ และโค้ชนิรุจน์ ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

จากผู้รับสู่ผู้ให้! 'พงษ์เพ็ญ เหมเปา' ขอผลักดันเด็กๆสู่ยอดแข้งชดเชยความฝัน

เจ : อะคาเดมี่ เราจะเปิดในวันที่ 4 ก.ค. 63 นี้ครับ รับตั้งแต่อายุ 5-15 ปี นะครับ ติดต่อมาที่พี่ตั้ม นิรุจน์ (093-2594433) ได้เลยครับ หรือจะติดต่อมาที่ผม (061-6095956) หรือในเฟซบุ๊ก Pongpen J Hempao เรามีการสอนครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ อยากเล่นตำแหน่งไหนบอกมาได้เลย ยิ่งผู้รักษาประตู เรามี ธนกร ทองอินทร์ อดีตมือกาวมากประสบการณ์มาขัดเกลาโดยเฉพาะครับ


Q : สุดท้ายอยากจะบอกอะไรกับน้องๆที่มีความฝันต้องการเล่นฟุตบอลครับ ?

เจ : ฟุตบอลเป็นสิ่งที่มีเกียรติ เป็นสิ่งที่สามารถเลี้ยงตัวคุณได้ นำไปต่อยอดได้ อยากให้น้องๆทุกคนฝึกฝน วินัยสำคัญมาก อย่าหลงผิด เสพติดอบายมุข ออกนอกลู่นอกทาง หมั่นหาโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ พรสรรค์ มันไม่คงทนเท่า พรแสวง นะครับ โชคดีนะครับ และก็สุดท้ายผมอยากจะกราบขอบคุณครูบาอาจารย์ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สร้างผมขึ้นมา

อ.อดุลย์ แจ่มแจ้ง

อ.พิษณุ ถิ่นทุ่งทอง

อ.อนันต์ชัย โพธิ์ใบ

อ.พยงณ์ ขุนเณร

อ.ไพศาล ศรีอุ่นดี

อ.ชาตรี กลอนบัณฑิต

อ.สถาพร วาจาขำ

อ.สาโรชน ศรีสุข

อ.ชาญวิทย์ สร้อยคำ

" โค้ชรุต" นิธิชัย แช่มช้อย แห่ง ภูริ อคาเดมี่ 

ขอบขอบคุณทุกคนด้วยใจจริงครับ


นี่แหละครับ อีกหนึ่งตัวอย่างบุคลากรฟุตบอล แม้เจ้าตัวจะไม่ได้เฉิดฉาย จนมีชื่อเสียงในฐานะนักเตะ แต่ก็ไม่ละความฝันและความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง ปรับตัวเองเพื่อให้อยู่กับสิ่งที่รักได้ เจบอกว่าตอนนี้ ได้ใบโค้ชระดับอินโทร มาแล้ว จนพยายามมุ่งฝึกฝนพัฒนาตัวเอง หาโอกาสไปอบรมโค้ชในระดับสูงต่อไปในอนาคตให้ได้ ทาง TNNSPORTS ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับ "พงษ์เพ็ญ เหมเปา" อีกหนึ่งนักสู้ในวงการลูกหนังไทย ให้ประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตนะครับ


เรียบเรียงโดย : NickyMAN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง