TNN online AI จาก Google ช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนัง ผ่านรูปถ่ายของคุณ

TNN ONLINE

Tech

AI จาก Google ช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนัง ผ่านรูปถ่ายของคุณ

AI จาก Google ช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนัง ผ่านรูปถ่ายของคุณ

Google พัฒนา AI บนแพลตฟอร์ม Google Health ช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนังจากภาพถ่ายของคุณ

ทุกวันนี้เทคโนโลยีด้านสุขภาพได้พัฒนาไปไกลมาก และ AI ก็เข้ามามีบทบาทช่วยให้ชีวิตประจำวันมีความสะดวกมากขึ้น ล่าสุดในงาน Google I/O ได้ประกาศพัฒนา AI เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนัง เพียงถ่ายภาพผิวหนังเจ้าปัญหาขึ้นสู่ระบบก็จะได้รับคำตอบในทันที

AI จาก Google ช่วยวินิจฉัยโรคผิวหนัง ผ่านรูปถ่ายของคุณ ที่มาของภาพ https://nypost.com/2021/05/19/google-wants-to-use-ai-to-diagnose-your-skin-condition/

 


Google ตัดสินใจพัฒนา AI เพื่อใช้วินิจฉัยโรคผิวหนังนี้ เนื่องจากผลสำรวจการค้นหารูปภาพใน Google Image พบว่ามีผู้คนจำนวนมากเข้ามาค้นหารูปภาพที่เกี่ยวกับโรคผิวหนังเพิ่มขึ้น ตกปีละกว่า 1 หมื่นล้านรายการค้นหา ประกอบกับการขาดแคลนแพทย์ผิวหนัง หากผู้คนสามารถค้นหาปัญหาโรคผิวหนังของตนเองได้อย่างคร่าว ๆ ก็คงดีไม่น้อยเลยทีเดียว


สำหรับระบบ AI ของ Google Health ถูกฝึกให้วิเคราะห์รูปภาพโรคผิวหนังนับล้านรายการ, รูปภาพผิวหนังที่มีสุขภาพดีกว่า 1,000 รายการ และรูปภาพทางคลินิกของผิวหนังอีก 65,000 รายการ นอกจากนี้ ผู้ใช้อาจจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อายุ, สภาพผิว, เพศ และเชื้อชาติ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคอีกด้วย


หลังจากอัปโหลดตัวอย่างรูปภาพผิวหนังที่ผิดปกติ พร้อมกรอกข้อมูลเพิ่มเติมเรียบร้อย ระบบจะวิเคราะห์แล้วรายผลวินิจฉัยแยกโรคเป็นลำดับเรียงจากความโรคที่น่าจะเป็นมากที่สุด อีกทั้งยังมีการอธิบายลักษณะของอาการและความรุนแรงของโรค รวมถึงวิธีการรักษาโรคด้วย


การทดสอบตัวอย่างการวิเคราะห์รูปภาพโรคผิวหนังจำนวน 1,000 รายการ ผลปรากฏว่า AI สามารถให้วินิจฉัยแยกโรคที่ถูกต้องอยู่ 1 ใน 3 อันดับแรกของคำวินิจฉัย คิดเป็นร้อยละ 84 ซึ่ง AI อาจนำรูปภาพเหล่านี้ไปใช้ในการปรับปรุงฐานข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม ระบบ Google Health ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มความแม่นยำ และอย่าลืมว่ามันคือการวินิจฉัยโดยคร่าว ๆ เท่านั้น หากพบว่าโรคผิวหนังของคุณอาจเป็นปัญหาในอนาคตก็ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก BBC

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง