อัปเดตข้อมูล Starlink ใช้ได้ทั่วโลกปีหน้า !!
SpaceX ผู้ให้บริการเน็ตดาวเทียม Starlink ออกมายืนยันว่าภายในปี 2021 นี้ เน็ตดาวเทียม Starlink จะปล่อยให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงได้เกือบทุกที่
ไม่รู้ว่าทาง SpaceX ได้เข้ามาคุยกับ กสทช. บ้านเรารึยัง เมื่อทาง Elon Musk เจ้าของ SpaceX ผู้ให้บริการเน็ตดาวเทียม Starlink ออกมายืนยันว่าภายในปี 2021 นี้ เน็ตดาวเทียม Starlink จะปล่อยให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้เกือบทุกที่ และจะครอบคลุมทั่วโลกภายในปีหน้า หรือปี 2022 โดนปัจจุบันทาง SpaceX กำลังพยายามที่ส่งดาวเทียม Starlink ให้กระจายไปทั่วโลกอยู่ และจะเพิ่มความหนาแน่นของดาวเทียมอีกในภายหลังเพื่ออุดจุดบอดในพื้นที่ต่าง ๆ
Set dishy on the ground for now until the pipe adaptor arrives.
1. Dishy
2. One of the first speed tests
3. Fastest speed test so far (standing next to the router) pic.twitter.com/kQVR3CyFwo— Anthony Iemole (@SpaceXFan97) February 21, 2021
ในตอนนี้มีคนที่สามารถเข้าถึงเน็ต Starlink ได้แล้ว โดยมีรีวิวออกมาว่า ความเร็วของเน็ตจะแกว่งอยู่ที่ 77-130Mbps ซึ่งทาง Elon Musk ออกมายืนยันว่าภายในปีนี้ ความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เป็นประมาณ 300Mbps และค่า latency (ping) จะอยู่ที่ประมาณ 20ms อย่างไรก็ตามทาง Elon Musk ยังเผยอีกด้วยว่า เน็ต Starlink จะสู้สัญญาณเน็ตมือถือไม่ได้เมื่อใช้ในที่ชุมชนหนาแน่น โดยเน็ต Starlink จะเหมาะสำหรับชุมชนหนาแน่นปานกลางถึงต่ำมากกว่า (เป้าหมายของเน็ต Starlink อยู่ที่ 10 GB)
Most of Earth by end of year, all by next year, then it’s about densifying coverage.
— Elon Musk (@elonmusk) February 22, 2021
Important to note that cellular will always have the advantage in dense urban areas.
Satellites are best for low to medium population density areas.
สำหรับในประเทศไทยเรา เน็ต Starlink จะสามารถเปิดให้บริการได้ ทาง SpaceX จะต้องให้ทาง กสทช. อนุญาตเสียก่อน ทาง SpaceX ไม่สามารถเข้ามาเปิดบริการเน็ต Starlink ในไทยด้วยตนเองโดยไม่ขออนุญาติไม่ได้ ค่าบริการเน็ต Starlink เมื่อคิดเป็นอัตราเงินบาทไทยแล้ว จะมีค่าต่าง ๆ ดังนี้ ค่าจาน 18,000 บาท, ค่าส่งจาน 2,200 บาท และค่าบริการรายเดือนอีก 3,700 บาท เชื่อว่าถ้า Starlink สามารถเข้ามาเปิดในประเทศไทยได้จริง ราคาค่าเน็ตจะถูกปรับไปใช้อัตราในเรทของค่าเงินบาท (เฉกเช่นบนแพลตฟอร์มขายเกมอย่าง Steam เป็นต้น) ไม่งั้นก็ไม่สามารถเอาชนะเหล่าค่ายผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในไทยได้
แหล่งที่มา theverge.com