'เมสซี่' กับโอกาสมาเยือนพรีเมียร์ลีก by ปลั๊ก ภุมเรศ

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็จะกลับมาเปิดฉากโม่แข้งกันอีกครั้ง แม้ว่าฤดูกาลล่าสุดจะเพิ่งจบลงไปเมื่อกี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างที่ทราบกันว่าเป็นเพราะการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” จึงทำให้โปรแกรมต่างๆมันผิดเพี้ยนจากเดิมไปหมด

ไฮไลท์สำคัญของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ณ เวลานี้ ไม่ใช่เรื่องของการลุ้นแชมป์ เพราะว่ากระแสข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวเตะชาว์อาร์เจนไตน์ ดันเข้ามาเกี่ยวพันกับ 2 บิ๊กเนมมืองผู้ดีอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่เรื่องของ เมสซี่ และลืมเรื่องการลุ้นแชมป์กันไปเลย

เมสซี่ ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับ บาร์เซโลนา ในช่วงปีหลังๆ  พลาดท่าพ่าย ลิเวอร์พูล แบบช็อคโลก 0-4 จนกระเด็นตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบสุดงงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว  , อกหักได้เป็นแค่ รองแชมป์ ลา ลีกา สเปน ในซีซั่นนี้ ทั้งที่ก่อนพักหนี “โควิด-19” พวกเขามีแต้มนำหน้า เรอัล มาดริด 2 คะแนน แต่สุดท้ายเมื่อปิดฤดูกาล บาร์ซ่า กลับเป็นฝ่ายพ่ายต่อ “ราชันชุดขาว” 5 แต้ม

ฟางเส้นสุดท้ายของ เมสซี่ กับ บาร์เซโลนา ขาดลงทันทีเมื่อจบเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ “เจ้าบุญทุ่ม” โดนยิงเละเทะแบบศพไม่สวย 2-8 ร่วงตกรอบไปแบบน่าอับอายและผิดหวัง .... จนสุดท้ายและท้ายสุด สตาร์ดังทีมชาติอาร์เจนตินา ประกาศขอย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู แบบช็อคแฟนฟุตบอลทั่วโลก เพราะว่าไม่มีใครเคยคิดว่าก่อนว่า เมสซี่ จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากเอง

สถานีต่อไปของ เมสซี่ อาจมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับ “สตาร์ดัง” รายอื่นๆ สาเหตุที่เป็นแบบนั้นไม่ใช่ว่าว่า เจ้าตัว หมดสภาพหรือฟอร์มตกจนน่าเกลียด แต่มันเป็นเพราะว่า เจ้าตัว ได้รับค่าเหนื่อยที่สูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งมีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้นที่พร้อมทุ่มสู้ราคา รวมทั้งอย่างน้อย เมสซี่ น่าจะต้องมีค่าตัวในการย้ายทีม(สัญญายังหมด)อย่างน้อยอยู่ที่ 100-150 ล้านปอนด์(4,115-6,173 ล้านบาท) และคาดว่าค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์คงไม่ต่ำกว่า 1 ล้านปอนด์(41.15 ล้านบาท) อย่างแน่นอน

ตัดชื่อทีมต่างๆนอก พรีเมียร์ลีก ที่มีเอี่ยวกับ เมสซี่ ทิ้งออกไปก่อน ณ เวลานี้ สตาร์เลือดฟ้าขาว จะมีข่าวหนาหูกับ 2 ทีมเมืองแมนเชสเตอร์ นั่นก็คือ “ปีศาจแดง” และ “เรือใบสีฟ้า” แม้บางสื่อจะเอาไปเชื่อมโยงกับ “แชมป์ลีกทีม่าสุด” ลิเวอร์พูล แต่ว่าคงเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจาก “หงส์แดง” ไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยระดับนั้นอย่างแน่นอน รวมทั้ง “สตาร์ดัง” อย่างพวก ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รวมทั้ง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ก็รับค่าเหนื่อยน้อยกว่า เมสซี่ อยู่หลายเท่าตัวนัก

 

แมนฯ ยูฯ อาจไม่ใช่ทีมที่ประสบความสำเร็จในช่วงหลังๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเงินก็ถือว่าไม่เป็นรองทีมอื่นๆใน พรีเมียร์ลีก ซะทีเดียว โดยเวลานี้ แมนฯยูฯ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะต่อสัปดาห์สูงสุดอยู่ที่ 3.5 แสนปอนด์(14.4 ล้านบาท) นั่นก็คือในรายของ ดาบิด เด เคอา นายด่านชาวสเปน และ อเล็กซิส ซานเชซ สตาร์ดังชาวชิลี ที่เพิ่งย้ายร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน รวมทั้งยังมีข่าวว่า “ปีศาจแดง” อาจจะอัพค่าเหนื่อย ปอล ป็อกบา ยอดมิดฟิลด์ชาวเมืองน้ำหอม ขึ้นไประดับ 5 แสนปอนด์(20.57 ล้านบาท) ดังนั้นก็ถือว่าพอได้หากจะทุ่มเงินคว้าตัว เมสซี่ มาร่วมทีมจริงๆตามข่าว แต่ถือว่าค่อนข้างหนักพอสมควร

แมนฯ ซิตี้ เป็นอีกทีมที่ต้องทำการผ่าตัดใหญ่ เพราะว่าผลงานในปีล่าสุดถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก รวมทั้งแกนหลักหลายๆคนก็เริ่มอายุอานามมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนพวกที่ซื้อเข้ามาในช่วงหลังๆก็ยังฝากผีฝากไข้ไม่ค่อยได้ เรื่องเงินคงไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าถือเป็นทีมที่เหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว ปัญหาหลักๆคงมีเพียงแค่ว่า เมสซี่ จะสนใจข้อเสนอจาก “เรือใบสีฟ้า” มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

สถานการณ์ล่าสุดของ เมสซี่ จากการรายงานของสื่อต่างๆทั่วโลก แมนฯ ซิตี้ น่าจะมีโอกาสมากที่สุด เพราะว่าบางทีมที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับ สตาร์อาร์เจนไตน์ เริ่มแสดงท่าทียอมยกธงขาวกันแล้ว เพราะลองบวกลบคูณหารค่าใช้จ่ายโดยรวมในการคว้าตัว เมสซี่ มาร่วมทัพ ณ เวลานี้ ถือว่าค่อนข้างสูงเกินไปจริงๆ และยิ่งในช่วงวิกฤติ “โควิด-19” ระบาดอย่างหนักแบบนี้ด้วย ไม่เหลือจริงไม่น่าทำ !!!

                ปลั๊ก ภุมเรศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บุรีรัมย์ก็มา! สื่อ+แฟนบอล ตัดต่อภาพ 'เมสซี่' ในสีเสื้อสโมสรอื่น

เดือดแล้ว! แฟนบาร์ซ่าบุกหน้าสนาม บีบ 'บาร์โตเมว' ลาออกหลังทราบข่าวเมสซี่

บาร์ซ่าเงิบ! 'เมสซี่' ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมซัมเมอร์นี้ทันที