TNN online อย่าหากิน! ‘ซาซิมิไก่ดิบ’ สุดอันตรายเสี่ยงติดเชื้อ ร้ายสุดถึงขั้นตาบอด

TNN ONLINE

สังคม

อย่าหากิน! ‘ซาซิมิไก่ดิบ’ สุดอันตรายเสี่ยงติดเชื้อ ร้ายสุดถึงขั้นตาบอด

อย่าหากิน! ‘ซาซิมิไก่ดิบ’ สุดอันตรายเสี่ยงติดเชื้อ ร้ายสุดถึงขั้นตาบอด

กรมอนามัยเตือน ‘ซาซิมิไก่ดิบ’ อันตราย เสี่ยงได้รับเชื้อแบคทีเรีย ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ ติดเชื้อในลำไส้ ร้ายสุดถึงขั้นตาบอด

วันนี้ ( 10 มี.ค. 64 )นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีในโลกโซเซียลมีการเผยแพร่เมนูซาชิมิอกไก่ดิบสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีการจำหน่ายในร้านอาหารไทยในขณะนี้ กรมอนามัยขอความร่วมมือประชาชนเลือกร้านอาหารที่ผ่านการปรุงสุกดีกว่า เนื่องจากในเนื้อไก่ดิบหรือไก่ดิบแช่แข็งมักมีเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ปนเปื้อนมาด้วย เป็นต้นเหตุของการท้องร่วง อาหารเป็นพิษ หรือการติดเชื้อในลำไส้ และมักมี  ตัวอ่อนของพยาธิตัวจี๊ด เมื่อกินเข้าไปจะกลายเป็นตัวแก่ในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีอาการคัน บวมแดง หรือบวมๆยุบๆ และเคลื่อนที่ได้ สำหรับบางรายอาจจะร้ายแรงถึงขั้นตาบอด หรือสมองอักเสบได้ และในส่วนของ


สถานประกอบกิจการเลี้ยงไก่สามารถป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค Salmonellaได้ด้วยการตรวจสุขภาพของไก่และอาหารไก่รวมถึงการตรวจสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในโรงงานและสุขาภิบาลของโรงงานเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เกิดจาก Salmonella ไปสู่ผู้บริโภคอีกด้วย

อย่าหากิน! ‘ซาซิมิไก่ดิบ’ สุดอันตรายเสี่ยงติดเชื้อ ร้ายสุดถึงขั้นตาบอด

“ทั้งนี้ ประชาชนควรเลือกซื้อไก่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และก่อนนำไก่ดิบมาปรุงประกอบอาหารต้องล้างให้สะอาดก่อน โดยเฉพาะสิ่งสกปรกที่ติดมากับไขมัน ถ้ามีมากควรล้างด้วยน้ำอุ่นหรือ น้ำสะอาด แล้วจึงนำมาชำแหละเอาส่วนต่าง ๆ และกระดูกที่ไม่ต้องการออกเพื่อนำมาปรุงสุกโดยใช้ความร้อนสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที เป็นการทำลายเชื้อโรคที่ติดมากับเนื้อไก่ดิบ 


หากซื้อเนื้อไก่แช่แข็งผ่านทางออนไลน์ ต้องสังเกตบรรจุภาชนะห่อหุ้มด้วยพลาสติกแช่เย็น ป้ายที่บอกวันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่ควรบริโภค สำหรับการเก็บเนื้อไก่ดิบนั้น หากซื้อมาประกอบอาหารแล้วแต่ใช้ไม่หมดควรเก็บในอุณหภูมิ 0-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเก็บได้นาน 3-5 วันหรือเก็บในช่องแช่เย็นที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นาน 12 เดือน ส่วนอาหารปรุงสุกที่เก็บไว้นานกว่า 4 ชั่วโมง ควรนำมาอุ่นร้อนก่อนทุกครั้งในมื้อต่อไป และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนกินอาหารและหยิบจับอาหารสด เพื่อสุขอนามัยที่ดี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ข่าวแนะนำ