TNN online ถือ "บัตรทอง" เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

TNN ONLINE

สังคม

ถือ "บัตรทอง" เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

ถือ บัตรทอง เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

บอร์ด สปสช.เห็นชอบ “งบกองทุนบัตรทอง ปี 64” 2.02 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 63 กว่า 1.2 หมื่นล้าน เหตุจากเงินเฟ้อ พร้อมอัดชุดสิทธิประโยชน์เพิ่มสำหรับผู้ป่วย ปรับระบบบริการ 19 รายการ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วานนี้ (6 ม.ค.63) โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุม โดยมีวาระการพิจารณาร่างงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2564

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างงบประมาณกองทุนบัตรทองปี 2564 ตามข้อเสนอคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุน สปสช. ที่มี นางดวงตา ตันโช เป็นประธาน เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ภาพรวมของงบประมาณกองทุนฯ อยู่ที่จำนวน 202,704.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,388.06 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.5 จากงบฯ ปี 2563 ซึ่งอยู่ที่จำนวน 190,366 ล้าน

สำหรับการบริหารกองทุนจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. งบค่าบริการเหมาจ่ายรายหัว 183,574.24 ล้านบาท จากปี 2563 อยู่ที่จำนวน 173,750.40 ล้านบาท เพื่อดูแลประชากร 47.6 ล้านคน หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 3,853.04 บาทต่อประชากรผู้มีสิทธิ จากปี 2563 อยู่ที่จำนวน 3,600 บาท โดยเป็นงบประมาณที่เสนอเพิ่มขึ้นจำนวน 9,823.84 ล้านบาท หรือ 253.04 บาทต่อประชากรผู้มีสิทธิ เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐจำนวน 51,790.93 ล้านบาท เหลือเป็นงบกองทุนฯ ที่ สปสช.ได้รับมาบริหารจำนวน 131,783.30 ล้านบาท

2.งบค่าบริการนอกงบเหมาจ่ายรายหัว เสนอจำนวน 19,129.83 ล้านบาท จากปี 2563 อยู่ที่จำนวน 16,588.59 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 9,823.84 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการใน 6 กลุ่มบริการ ได้แก่ ค่าบริการสาธารณสุขผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ รวมบริการควบคุมป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 3,757.93 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 9,978.32 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขเพื่อควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดัน และจิตเวชเรื้อรังในชุมชน 1,280.83 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ชายแดนใต้ 1,522.09 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน 838.02 ล้านบาท และค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว 1,752.61 ล้านบาท

ถือ บัตรทอง เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

ด้าน นางดวงตา กล่าวว่า งบฯ กองทุนบัตรทองปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปี 2563 มีปัจจัยจากภาวะเงินเฟ้อทั้งในส่วนของเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน ยาและเวชภัณฑ์ ค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น การปรับบริการให้ชัดเจน และการพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 ได้เพิ่มความเข้มแข็งของการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ได้แก่

1. คัดกรองโรคดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์

2. ตรวจคัดกรองตรวจภาวะฟีนิลคีโตนูเรียในทารกแรกเกิด

3. คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้กับประชากรทุกสิทธิ

4. สนับสนุนติดตามพัฒนาการเด็กไทยโดยเพิ่มสมุดติดตามประเมินพัฒนาการเด็ก

5. แว่นตาสำหรับเด็กที่ได้รับการคัดกรองแล้วพบว่ามีปัญหาสายตา

6. ฉีดวัคซีนรวม หัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) ในเด็กอายุ 1.5 ปี

7. นำร่องบริการยาป้องกันติดเชื้อเอชไอวี (PrEP) และเพิ่มการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันเอดส์

ถือ บัตรทอง เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

นอกจากนี้ ยังเพิ่มการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ได้แก่ 

1. เพิ่มบริการทันตกรรมที่คลินิกทันตกรรมเอกชน ได้แก่ ขูดหินปูน อุดฟันและถอนฟัน

2. บริการฉุกเฉินนอกเวลาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบายห้องฉุกเฉินคุณภาพ

3. เพิ่มบริการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องหลังจากพ้นระยะฉุกเฉินในโรคหลอดเลือดสมอง, บาดเจ็บทางสมองและบาดเจ็บไขสันหลัง

4. บริการกรณีโรคหายาก จัดระบบให้มีการส่งต่อผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว

5. บริการฝังเข็มสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

6. บริการล้างไตทางหน้าท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ

7. บริการเชิงรุกดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในชุมชน

8. บริการฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพคนพิการ

ถือ บัตรทอง เฮ! อนุมัติงบ 2 แสนล้าน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่ม 19 รายการ

อีกทั้ง ยังมีการปรับระบบบริการประชาชน ลดการรอคอยบริการ ลดความแออัดในรพ. ได้แก่

1. การให้ผู้ป่วยสามารถรับยาที่ร้านยาต่อเนื่อง

2. ให้ประชาชนสามารถตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกรพ. ได้ที่คลินิกหรือศูนย์บริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์

3. เพิ่มบริการส่งเสริมสุขภาพและดูแลผู้ป่วยโดยคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์

4. เพิ่มประสิทธิภาพระบบการส่งต่อระหว่างหน่วยบริการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง