TNN online สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ "ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม" เท่าไร-นานกี่เดือน?

TNN ONLINE

สังคม

สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ "ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม" เท่าไร-นานกี่เดือน?

สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เท่าไร-นานกี่เดือน?

สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับ “ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม” รายละเท่าไร-เป็นเวลานานกี่เดือน-ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

ความคืบหน้า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โครงการยกระดับ ความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 7.5  ล้านราย วงเงินรวม 150 ล้านบาท


โดยปรับเพิ่มความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากมติครม. เมื่อวันที่ 28 ก.พ 66  จากเดิม 80 บาท/คน/3 เดือน เพิ่มอีก 20 บาท/คน/3 เดือน รวมเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน ในช่วงเดือนเม.ย. – มิ.ย. 66 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคา LPG ที่อยู่ในระดับสูงและลดภาระค่าครองชีพสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยคาดว่าผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐกลุ่มใหม่จะเริ่มใช้สิทธิได้ใน วันที่ 1 เม.ย. 66 นี้


สรุปคือครม.ลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม เพิ่มเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน ช่วง เม.ย. - มิ.ย. 66 สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65


สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีอะไรบ้าง? 


ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

- วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน 

- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 66) 

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย 

* ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน 

* ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน 

* ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)


ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)

- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)


ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

สำหรับเดือนมกราคม 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2566 ดังนี้


สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย

- การให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (200/300 บาทต่อคนต่อเดือน ) 3,542.76 ล้านบาท

- มาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะเดือนมกราคม 2566 (200 บาทต่อคนต่อเดือน) 2,587.25 ล้านบาท  รวม 6,130.01 ล้านบาท

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 195.66 ล้านบาท

3. วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 23.01 ล้านบาท

4. วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 6.85 ล้านบาท

5. วงเงินค่าโดยสารรถไฟ  16.16 ล้านบาท

รวมจำนวนเงินทั้งหมด 6,371.69 ล้านบาท


สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) จำนวนเงิน (ล้านบาท)

1. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 180.07 ล้านบาท

2. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17.64 ล้านบาท

3. มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 215.59 ล้านบาท รวมจำนวนเงิน (2) 413.31 ล้านบาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) 6,785.00 ล้านบาท

สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังสามารถใช้บัตรฯ ต่อไปได้ตามปกติ จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศให้เริ่มใช้บัตรประชาชนแทน 

ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ


ข้อมูลจาก :  ไทยคู่ฟ้า

ภาพจาก :  TNN ONLINE 

ข่าวแนะนำ