TNN online เริ่มแล้ว "ลดเงินสมทบประกันสังคม" เหลือจ่ายเท่าไหร่ ลดกี่เดือน?

TNN ONLINE

สังคม

เริ่มแล้ว "ลดเงินสมทบประกันสังคม" เหลือจ่ายเท่าไหร่ ลดกี่เดือน?

เริ่มแล้ว ลดเงินสมทบประกันสังคม เหลือจ่ายเท่าไหร่ ลดกี่เดือน?

รัฐบาลย้ำ มาตรการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมงวด งวด ต.ค.-ธ.ค.2565 บังคับใช้แล้ว ช่วยเพิ่มสภาพคล่องนายจ้างผู้ประกอบการ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลูกจ้างผู้ประกันตนม.33 และม.39 แต่สิทธิประโยชน์เหมือนเดิม


รัฐบาลย้ำ มาตรการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมงวด งวด ต.ค.-ธ.ค.2565 บังคับใช้แล้ว ช่วยเพิ่มสภาพคล่องนายจ้างผู้ประกอบการ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลูกจ้างผู้ประกันตนม.33 และม.39 แต่สิทธิประโยชน์เหมือนเดิม


วันนี้( 27 ต.ค.65) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมงวดเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 มีผลบังคับใช้แล้ว ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายชองลูกจ้างผู้ประกันตน และเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้างผู้ประกอบการจากสถานการณ์การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นเนื่องจากผลกระทบจากสถานการณืวิกฤติโลก ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ


การปรับลดอัตราเงินสมทบจะเริ่มตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2565 โดยให้จัดเก็บเงินสมทบฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เหลือร้อยละ 3 ของค่าจ้าง (จากเดิมร้อยละ 5) ทำให้อัตราเงินสมทบที่นายจ้างและลูกจ้างจ่ายอยู่ในระหว่าง 49.50-450 บาทต่อเดือน (จากเดิม 83-750 บาทต่อเดือน) และสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบเหลือร้อยละ 3 ของค่าจ้าง (จากเดิมร้อยละ 5 เช่นกัน) ทำให้จากเดิมที่ชำระเงินสมทบเดือนละ 432 บาท เหลือเดือนละ 240 บาท และแม้จะมีการปรับลดอัตราเงินสมทบแต่ผู้ประกันตนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม


รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  มุ่งมั่นที่ทำทุกวิถีทางให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีและยกระดับคุณภาพชีวิตจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และยังมีมาตรการช่วยประคับประคองและผลักดันให้นายจ้างผู้ประกอบการสามารถปรับตัวอยู่ได้  นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง-ลูกจ้างในช่วงวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563  โดยได้มีการปรับลดอัตราเงินสมทบรวมกันทั้งหมด 21 เดือนเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของนายจ้างและลูกจ้าง และในขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเร็ว






ที่มา เว็บรัฐบาล

ภาพจาก AFP/ประกันสังคม/TNN Online

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง