‘ไข้เลือดออก’ ระบาดหนัก! 5 เดือน ยอดป่วยพุ่ง 4.2 เท่า เสียชีวิตแล้ว 15 คน

วันนี้ ( 9 มิ.ย. 66 )นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควมคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในช่วงหน้าฝน ว่าปีนี้ประเทศไทยเริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้น เนื่องจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้โรคติดต่ออื่นสงบลง ดังนั้น ปีนี้เมื่อถึงวงรอบของ โรคระบาดอื่นๆ ก็จะพบผู้ป่วยกลับมา อย่างโรคไข้เลือดออก ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 พฤษภาคม 2566 พบรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวน 18,173 คน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ถึง 4.2 เท่า และพบเสียชีวิตแล้ว 15 คน  

กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงที่สุด ได้แก่ กลุ่มอายุ 5-14 ปี ป่วย 6,088 คน รองลงมาอายุ 15-24 ปี ป่วย 4,247 คน ส่วนจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงที่สุดในเดือนพฤษภาคม คือ ตราด น่าน จันทบุรี แม่ฮ่องสอน และระยอง ตามลำดับ

นายแพทย์โสภณ ยอมรับว่า กังวลกับสถานการณ์ไข้เลือดออก เพราะโรคไข้เลือดออกมีความเสี่ยงเสียชีวิตในวัยเด็กและวัยทำงาน แม้ว่าจะเป็นคนที่แข็งแรง ดังนั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงที่เริ่มมีไข้ เพราะถ้าไข้ลงแล้วอาจเกิดอาการช็อกได้ ประกอบกับไข้เลือดออกแม้จะมีวัคซีนแต่ไม่ได้ใช้กว้างขวาง ส่วนใหญ่ เน้นเป็นการป้องกันด้วยการกำจัดลูกน้ำยุงลาย แล้วถ้ามีอาการป่วย ก็ให้รีบไปตรวจวินิจฉัย รักษาโดยเร็ว เพื่อลดโอกาสเสียชีวิต

สำหรับอาการของไข้เลือดออกจะมีไข้เหมือนกับอาการของโควิด-19และ ไข้หวัดใหญ่  แต่ไข้เลือดออกมักจะไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะไข้สูงลอย ปวดกระบอกตา มีจุดเลือดออกตามตัว มีเลือดออกตามไรฟัน หรือในกระเพาะอาหาร เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งอาการเหล่านี้จะไม่พบในโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นถ้าไข้ขึ้นแล้วไม่มีอาการทางเดินหายใจ ตรวจไม่พบโควิด-19 ให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก และควรไปพบแพทย์ทันที แต่เราก็ต้องไม่ประมาท แม้ว่าจะมีไข้ขึ้นและมีอาการทางเดินหายใจ ก็อาจเป็นไข้เลือดออกได้เพราะอาจติดเชื้ออื่นร่วมด้วยได้เช่นกัน

ภาพจาก : AFP