TNN online ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 30 สเปอร์ส พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 30 สเปอร์ส พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 สัปดาห์ที่ 30 สเปอร์ส พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ป็อกบา สำรองลงเปลี่ยนเกมเรียกฟาวล์ ก่อนบรูโน่ซัดโทษบุกตีเสมอ สเปอร์ส 1-1 แบ่งแต้มกันไปสุดมันส์ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 30 ของฤดูกาล

วันนี้ (20 มิ.ย. 63) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 30 ของฤดูกาล "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดสนามท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ลงทำการแข่งขันเวลา 02.15 น.


ครึ่งเวลาแรก

เริ่มเกมมาในนาทีที่ 5 สเปอร์สได้โอกาสแรก จากการแปลจากฝั่งขวาของ แซร์จ ออร์ริเย่ แต่โดนผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ดสกัดออกหลังไป

ผ่านไปนาทีที่ 15 ต่างฝ่ายต่างบุกไม่ขึ้น เคาะบอลกันไปมาอยู่ตรงกลางสนาม แต่ทางแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายได้ครองบอลมากกว่า

นาทีที่ 21 แมนฯ ยูไนเต็ดได้บุกจากฝั่งขวา และได้เปิดโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นสเปอร์สกัดไม่ขาด บอลไปเข้าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด แล้วยิงเท้าซ้าย แต่ทาง อูโก้ ยอริส ก็ปัดเอาไว้ได้ จากนั้นถัดมา บรูโน่ แฟร์นันด์ ได้โอกาสซัดเสาแรก กึ่งยิงกึ่งผ่านบอล แต่ก็ไม่ผ่านมือ อูโก้ ยอริส มือกาวของเจ้าถิ่น

จนมาถึงนาทีที่ 27 เจ้าถิ่นตัดบอลได้จากตรงกลางสนาม สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ได้บอลแล้วลากเดี่ยวขึ้นไป หลบผู้เล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 คน จบด้วยการซัดเท้าขวาเต็มข้อเข้าไปประตูไปอย่างเฉียบคม สเปอร์ส ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0

ต่อมาในนาทีที่ 31 เจ้าบ้านบุกจากฝั่งขวา สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ เปิดบอลโด่งโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็นทางด้าน ซน ฮึงมิน ได้ขึ้นโขกตรงกรอบ สุดท้าย ดาบิด เด เคอา ปัดออกหลังไปได้ แมนฯ ยูไนเต็ดหวิดเสียประตูเพิ่ม

นาทีที่ 45+2 ทีมเยือนมีโอกาส โดย สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แตะบอลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์  เสียจังหวะลื่นไปก่อน แต่รุกมาล็อกบอล จนได้ยิงด้วยขวา แต่ก็ไปเข้าซองของ อูโก้ ยอริส อดได้ประตูตีเสมอ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งเวลาแรก สเปอร์ส นำ แมนยู 1-0


ครึ่งเวลาหลัง

เริ่มครึ่งหลังมา 53 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดบุกขึ้นมาจากด้านขวา อารอน วาน-บิสซาก้า โยนบอลมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้จบ แต่บอลไม่ตรงกรอบ ต่อมาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ส่งบอลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ยิงเรียดเฉียดเสาไกลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 58 สเปอร์ส เริ่มทำเกมมาจากด้านซ้าย แฮร์รี่ เคน เก็บบอลได้แล้วเปิดเขามาตรงกลางกรอบเขตโทษ เอริค ลาเมล่า กำลังจะเข้าชาร์จ แต่เป็น ลุค ชอว์ ที่ถึงบอลก่อนสกัดเอาไว้ได้ทันควัน

นาทีที่ 62 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คน โดยเอา แดเนี่ยล เจมส์ ออก ส่ง เมสัน กรีนวู้ด เข้ามาแทน และเปลี่ยน เฟร็ด ออกไป ส่ง ปอล ป็อกบา ลงสู่สนาม ซึ่งสัมผัสแรกของ ป็อกบา ได้ซัดแต่โดนบอลไม่เต็มเท้าและไปติดบล็อกของผู้เล่นสเปอร์

ถัดมา 2 นาที อองโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงเต็มๆ แต่ ดายเออร์ ขวางบอลเอาไว้ได้ทัน แมนฯ ยูไนเต็ด ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 66 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมรุกต่อเนื่อง ลุค ชอว์ ส่งบอลทางฝั่งซ้ายให้กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ได้จับบอลแต่งเข้าเท้าซ้าย แล้วได้จังหวะซัดเต็มข้อ จนได้ลุ้น แต่ อูโก้ ยอริส ผู้รักษาประตูของเจ้าบ้านก็ซุปเปอร์เซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง

ต่อมาในนาทีที่ 81 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา โชว์สเต็ปหลอกล่อจน เอริค ดายเออร์ เสียท่า ทำฟาวล์ กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหาร ไม่พลาด ยิงด้วยความแรงเสียบมุมซ้ายเข้าไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ สเปอร์ส 1-1

ต่อมาในนาทีที่ 81 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา โชว์สเต็ปหลอกล่อจน เอริค ดายเออร์ เสียท่า ทำฟาว์ล ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหาร ไม่พลาด ยิงด้วยความแรงเสียบมุมซ้ายเข้าไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ สเปอร์ส 1-1

นาทีที่ 90 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้จุดโทษอีกครั้ง เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีด หลังมองว่า เอริค ดายเออร์ ไปทำฟาว์ลใส่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินต้องได้ใช้ วีเออาร์ ช่วย สุดท้าย เจ้าบ้านรอดเสียจุดโทษไปในจังหวะนี้

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดเวลการแข่งขัน ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เปิดบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ "ไก่เดือยทอง" ยังรั้งอันดับ 8 ของตาราง มี 42 คะแนน ด้าน "ปีศาจแดง" อยู่ที่ 5 เก็บได้ 46 แต้ม 


รายชื่อผู้เล่น11คนแรกที่ลงเป็นตัวจริง

ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ (4-2-3-1): อูโก้ ยอริส (GK) กัปตัน : แซร์จ ออร์ริเย่ , ดาวิซอน ซานเชซ , เอริค ดายเออร์  , เบน เดวี่ส์ , แฮร์รี่ วิงค์ส , มุสซ่า ซิสโซโก้ , เอริค ลาเมล่า , สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ , ซน ฮึงมิน , แฮร์รี่ เคน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา (GK) : อารอน วาน-บิสซาก้า , วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ , แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (กัปตัน) , ลุค ชอว์ , สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ , เฟร็ด , บรูโน่ แฟร์นันด์ส , แดเนี่ยล เจมส์ , อองโตนี่ มาร์กซิยาล , มาร์คัส แรชฟอร์ด


ไฮไลท์การแข่งขัน

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง