TNN online 4 ประเด็นหลังเกมแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ แมนยู 0-0

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

4 ประเด็นหลังเกมแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ แมนยู 0-0

4 ประเด็นหลังเกมแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ แมนยู 0-0

วิเคราะห์ 4 ประเด็นหลัก ในเกมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 17 คู่บิ๊กแมตช์ในเกมแดงเดือด "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 0-0

เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023/24 คู่เอกประจำสัปดาห์ที่ 17 เป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังเหย้า แอนฟิลด์ ทำศึกแดงเดือดพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกในแดนหน้าเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ


ด้านทีมเยือนของ เอริค เทน ฮาก วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำเกมรุกร่วมกับ แอนโทนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่ ส่วน สก๊อตต์ แม็คโทนิเนย์ ลงเล่นในตำแหน่งของ บรูโน่ แฟร์นันเดส พร้อมกับสวมปอกแขนกัปตันทีม


เกมนี้ ตลอดทั้ง 90 นาที เป็นฝั่งของ ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของยูไนเต็ดได้เลย โดยในช่วงทดเวลานาทีที่ 90+4 ทีมเยือนต้องเหลือสิบคนด้วย เมื่อทาง ดิโอโก้ ดาโลท์ ไปโวยใส่ผู้ตัดสิน จนทำให้จากที่โดนใบเหลืองไปก่อน ก็ถูกควักใบแดงต่อเนื่องภายในไม่กี่วินาทีไล่ออกไปเลย 


หลังจบเกมวันนี้ TNN จะพามาวิเคราะห์ 4 ประเด็นหลัก เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023/24 คู่เอกประจำสัปดาห์ที่ 17


1. เกมรับที่ยอดเยี่ยมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมนี้ ทัพปีศาจแดง ถูกฝั่งหงส์แดงบุกกดใส่อย่างต่อเนื่อง โดยมีโอกาสครองบอลสูงถึง 68% โอกาสสำหรับการยิงประตู 34 ครั้ง แต่สุดท้าย แนวรับของยูไนเต็ด ก็ป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยเคลียร์บอลสำเร็จไป 45 ครั้ง และอังเดร โอนาน่า เซฟไปถึง 8 ครั้งเลยทีเดียว สำหรับผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในแนวรับคงนี้ไม่พ้น ราฟาเอล วาราน ที่ได้รับการโหวตจากแฟนบอลให้เป็น Man of the match ในเกมนี้ เนื่องจาก เขาเป็นผู้เล่นที่ยืนตำแหน่งได้ดี สกัดในจังหวะสำคัญๆ ไว้ได้หลายครั้ง และการอ่านจังหวะค่อนข้างทำได้ดีมากๆ ในเกมนี้เลยทีเดียว


2. จังหวะการจบสกอร์ของลิเวอร์พูล

ทัพหงส์แดง มีจังหวะในการยิงประตูในเกมนี้ 34 ครั้ง และได้เตะมุมมากถึง 12 ครั้ง ทางด้าน เยอร์เก้น คล็อปป์ ออกมายอมรับด้วยว่า ลูกทีมของเขาครองเกมเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่านัดก่อนซึ่งชนะ 7-0 แต่ที่คราวนี้ทำได้แค่เสมอ 0-0 เป็นเพราะการตัดสินใจจังหวะสุดท้ายไม่ดีพอยิงประตูปลดล็อค โดยทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลยุส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ต่างพากันซัดประตูให้กับทีมไม่ได้ แถมจังหวะที่ใกล้เคียงประตูมากที่สุด คือจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สอดขึ้นมายิงแต่บอลโค้งออกหนีหน้าปากประตูไป จึงทำให้ไม่ได้ประตู


3. จังหวะใบแดงของ ดิโอโก้ ดาโลท์

เกมแดงเดือด ขึ้นชื่อว่าต้องมีใบแดงแต่ทว่าเกมนี้ เป็นใบแดงที่นักเตะปะทะคารมณ์ใส่ผู้ตัดสิน โดยเป็นจังหวะในช่วงทพดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+2 ที่ ดิโอโก้ ดาโลท์ เบียดแย่งบอลกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และบอลไปโดน แข้งลิเวอร์พูล ออกนอกสนามชัดเจนแต่ทว่า ผู้ตัดสินเป่าให้ ลิเวอร์พูล ได้ทุ่ม ทำให้ ดาโลท์ แสดงอาการไม่พอใจในคำตัดสินอย่างชัดเจน ไมเคิล โอลิเวอร์ ชูใบเหลืองให้ จากนั้นต่อมา ดาโลท์ ยังคงบ่นไม่หยุด เพียง 15 วินาที เขาโดนใบเหลืองอีกใบ กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป ทำเอาทางด้าน แกรี่ เนวิลล์ กับ เจมี่ คาราเกอร์ สองตำนานร่วมแสดงทัศนะ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ไม่ควรแจกเหลืองสองใบติดข้อหาประท้วงคำตัดสิน ไล่ ดีโอโก้ ดาโลท์ แบ็คขวา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ท้ายเกม


4. การแก้เกมของทั้งสองทีม

สองกุนซือตัดสินใจแก้เกมในช่วงครึ่งหลัง หลังจากนาทีที่ 60 โดย คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนแผงกองกลาง ถอดเอา โดมินิค โซบอสซ์ไล และ ไรอัน กราเวนเบิร์ก ออกจากสนามและส่ง โคดี้ กัคโป กับ โจ โกเมส ลงสนามแทน โดยปรับเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปเล่นในตำแหน่งกองกลางแทน ส่วน ปีศาจแดง เปลี่ยน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ออกและส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงสนามแทน โดยผู้เล่นตัวสำรองของทั้งสองทีม มาเวลาในสนามประมาณ 20 กว่านาที แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับทีมของพวกเขาได้ 


ที่มาภาพ : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง