ในวันที่ 'โรนัลโด้' หันหลังให้ 'แมนยู' สโมสรที่สร้างเขาขึ้นมาจากดินสู่ดาว

เพียร์ส มอร์แกน เซเลปคนดัง ออกมาเปิดเผยว่า โรนัลโด้ ติดต่อเข้ามาโดยตรงเพื่อขอให้สัมภาษณ์ประเด็นปัญหากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นดราม่าออกมาเมื่อคืนนี้ การให้สัมภาษณ์แบบเต็มๆ จะออกอากาศวันพุธ (16 พ.ย.) นี้ ซึ่ง "โรนัลโด้" น่าจะออกมาเปิดใจต่อเรื่องราวทั้งหมดนับตั้งแต่ย้ายกลับมาโอลด์ แทรฟฟอร์ด หนล่าสุด

โดย มอร์แกน ยอมรับว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับสตาร์โปรตุกีส และยืนยันว่า รู้สึกถูกกระตุ้นให้สัมภาษณ์หลังได้รับการติดต่อจากนักเตะ

"คริสเตียโน่ ขอให้ผมสัมภาษณ์ มันก็ง่ายๆ แค่นั้นแหล่ะ" เซเลปแฟนบอลอาร์เซน่อล เผย

"ผมไม่ได้ขอร้องเขา เขาขอร้องผม เขาคิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว มันไม่ใช่ความลับอะไรที่เขาสั่งสมความผิดหวังลึกๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับยูไนเต็ด"

"เขารู้สึกว่าเขาต้องพูดออกมา เขารู้ดีว่ามันจะเหมือนการวางเพลิง จะส่งเสียงต่อการเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็รู้สึกว่าควรทำอะไรแบบนี้"

"เขาทราบดีว่าผู้คนจะวิจารณ์เขา แต่เขาก็ทราบดีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นคือความจริง"

"บางครั้งความจริงมันเจ็บปวด เขาคิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และผมก็ตอบรับเสียงนั้น"

"ฟุตบอลโลก กำลังจะเริ่มต้นขึ้น มันทำให้เขาหายไปจากยูไนเต็ด เดือนหนึ่ง มันทำให้มีเวลาพอทำให้สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นเข้าที่เข้าทาง"

"เขาสามารถกลับมาแล้วก็สะสางสิ่งต่างๆ ได้ เขารักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนๆ แต่เขาก็ต้องออกมา"

สำหรับบทสัมภาษณ์สุดดราม่า ที่ทำเอาหลายฝ่ายรู้สึกสะเทือนใจในคำพูดของนักเตะไอดอลรายนี้ โรนัลโด้ ได้พูดถึงการพัฒนาของสโมสรที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป รวมไปถึงการมาทำหน้าที่ของ ราล์ฟ รังนิก และประเด็นสำคัญที่ทำเอาสะเทือนไปทั้งทีม คือการพูดถึง เอริค เทน ฮาก กุนซือคนปัจจุบันของทีม

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ ผมไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยที่สโมสร การพัฒนาเป็นศูนย์ ของทุกอย่าง ที่ฝึกซ้อม ยิม แม้กระทั่งอ่างจากุชชี่ ผมคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เช่น เทคโนโลยี แต่สิ่งที่ผมเห็นยังเหมือนสมัย ผม 20, 21, 22"

"สโมสรใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ โอเล่ (กุนนาร์ โซลชา) แล้วก็แต่งตั้งผู้อำนวยการกีฬา ราล์ฟ รังนิก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเข้าใจ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นโค้ชด้วยซ้ำ ถ้าคุณยังไม่เป็นแม้กระทั่งโค้ช คุณจะเป็นเจ้านายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยังไง? ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของเขาด้วยซ้ำ"

นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังโต้ตอบ เวย์น รูนี่ย์ อดีตเพื่อนเก่าที่ระยะหลังมักออกมาวิจารณ์เขาว่า "ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม เวย์น ถึงวิจารณ์ผมอย่างหนัก บางทีอาจจะเพราะเขาเลิกค้าแข้งไปแล้วแต่ผมยังเล่นฟุตบอลอยู่ในระดับสูง ผมคงไม่พูดว่าผมดูดีกว่าเขาด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง.."

ต่อมา โรนัลโด้ พูดถึงเรื่องสโมสร พยายามกดดันให้ย้ายออกไป และความสัมพันธ์ กับ เอริค เทน ฮาก

"ใช่ ไม่ใช่แค่โค้ช แต่อีก 2-3 คนในสโมสรด้วย ผมรู้สึกถูกหักหลัง ผมรู้สึกว่าบางคนไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แค่ปีนี้ แต่ปีที่แล้วด้วย"

"ผมไม่มีความเคารพในตัวเขา (เอริค เทน ฮาก) เพราะเขาไม่แสดงความเคารพต่อตัวผม ถ้าคุณไม่แสดงความเคารพในตัวผม ผมก็ไม่มีทางที่จะเคารพคุณ"

"แฟน ๆ อยู่เคียงข้างผมเสมอ ผมรู้สึกแบบนั้นทุกครั้งที่ผมออกไปข้างนอก เมื่อผมเดินที่ถนน พวกเขาพอใจกับสิ่งที่ผมทำในเรื่องของฟุตบอล"

"สำหรับผมแฟน ๆ คือทุกสิ่ง นั่นเป็นสาเหตุที่ผมมาให้สัมภาษณ์ เพราะผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่ใช่แล้วในการจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของผม"

หลังจากบทสัมภาษณ์ได้เผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ทำเอาแฟนบอลต่างก็แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งของสโมสร และฝั่งของ โรนัลโด้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่อยู่ในสโมสร ต่างพากันรู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่ โรนัลโด้ พูดออกมา

โดยทางด้าน  คาเวห์ โซลเฮโคล บรรณาธิการข่าวของ Sky Sports สื่อกีฬาชั้นนำของประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนักเตะหลายคนของทีมผิดหวังเป็นอย่างมากกับบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ดูหมิ่นสโมสร, ผู้จัดการทีม และบรรดาเพื่อนร่วมทีมแบบนี้ พร้อมทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องพูดเรื่องแบบนี้ด้วย โดยที่จริงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมีโมเมนตัมที่ดีพอตัว

ในส่วนของแฟนบอลบางส่วนต่างก็รับไม่ได้สำหรับบทสัมภาษณ์ของ โรนัลโด้ จนโพสต์ข้อความหลายอย่าง อาทิเช่น 

"ยิ่ง โรนัลโด้ ย้ายออกไปเร็วเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น เขาสร้างความวุ่นวายสุดๆ เขาไม่เป็นที่ต้องการเลย และ ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่ดีกว่าด้วยในตอนที่ไม่มีเขา"

 

"สำหรับแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ตัวจริงทุกคนในตอนนี้น่ะ โรนัลโด้ ควรจะจบไปแล้ว นี่มันเป็นการทำลายสิ่งที่ตัวเองสร้างมาและสถานะการเป็นตำนานของสโมสรชัดๆ"

"รอไม่ไหวแล้วที่จะให้ คริสเตียโน่ ย้ายออกไป ใครช่วยมารับหมอนี่ไปทีเถอะ เขาไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย ตอนไม่มีเขาน่ะ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีกว่าเยอะมากๆ"

"ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โรนัลโด้ อยากย้ายออกจากทีมตั้งแต่ก่อนที่ อีทีเอช (หมายถึง เทน ฮาก) จะเข้ามาคุมทีมด้วยซ้ำ เขาไม่ได้มาร่วมทัวร์ช่วงปรี-ซีซั่น ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ให้ความเคารพกันเลย เขาเคยปฏิเสธที่จะลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ซึ่งก็เป็นการไม่ให้เกียรติกันเหมือนกัน เขาทิ้งทีมด้วยการเดินออกจากสนามตั้งแต่ก่อนที่เกมจะจบลง ซึ่งก็เป็นการไม่ให้ความเคารพกันอีก หลังจากนั้นเขายังอุตส่าห์ได้รับโอกาสให้ลงเล่นในฐานะกัปตันทีมและได้เป็นตัวจริงด้วยแท้ๆ สำหรับฉันแล้วฉันอยู่ข้าง อีทีเอช เต็มตัว"

จากการกระทำของ โรนัลโด้ น่าจะทำให้เขาต้องย้ายออกจากทีมไปในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ ในช่วงเดือนมกราคม นี้ อย่างแน่นอน โดยหลังจากจบฟุตบอลโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีคิวเล่นศึกพรีเมียร์ลีก ที่จะพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในช่วงปลายปี ซึ่งเราน่าจะไม่ได้เห็น โรนัลโด้ ลงสนามอย่างแน่นอน

และเกมสุดท้ายที่ โรนัลโด้ ลงสนามไปแล้วนั้น คือเกมที่เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมและพ่ายแพ้ให้กับ แอสตัน วิลล่า ไปด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา ในเมื่อการออกมาพูดโจมตีสโมสร และโจมตี กุนซือของตัวเองอย่างไม่สนใจอะไรแล้ว มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้แฟนบอลต่างก็อาจจะลืมเขาได้ง่ายๆ เช่นกัน

ที่มาภาพ : AFP