สหรัฐฯ เฝ้าระวัง-เตรียมพร้อมขั้นสูง หวั่นอิหร่านโจมตี

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า สหรัฐฯ อยู่ในภาวะเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมขั้นสูงเพื่อรับมือเหตุโจมตีที่อาจเกิดขึ้นโดยฝีมือของอิหร่าน โจมตีเป้าหมายของอิสราเอล หรือของสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในกรุงดามัสกัตของซีเรียเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ที่ปรึกษาทางการทหารของอิหร่านเสียชีวิตด้วยหลายนาย และคาดว่าการโจมตีตอบโต้จากอิหร่านดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า หลังอิหร่านออกมาระบุขอสงวนสิทธิ์เพื่อใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด 

ทั้งนี้ ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เมื่อวันพฤหัสบดี (4 เมษายน) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้หยิบยกเรื่องภัยคุกคามจากอิหร่านเข้าหารือกันด้วย

ท่าทีของสหรัฐฯ มีขึ้นขณะสงครามการสู้รบรอบใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กำลังเข้าสู่เดือนที่ 6 หรือนับแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสกดดันให้อิสราเอลเร่งทำข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่เหลืออยู่ในฉนวนกาซา แต่กระบวนการเจรจายังติดขัดเงื่อนไขสำคัญ คือ อิสราเอลต้องการหยุดยิงชั่วคราว ส่วนกลุ่มฮามาสต้องการข้อตกลงหยุดยิงถาวร

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกและสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ที่สหภาพยุโรป หรืออียู ให้ทุนสนับสนุน โดยเป็นรายงานคาดการณ์ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานในฉนวนกาซาที่อยู่ระหว่างการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสว่า อยู่ที่ 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.7 แสนล้านบาท หรือเท่ากับ 97% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาในปี 2022 รวมกัน 

ทั้งนี้ การทำรายงานประเมินความเสียหายกลางสงคราม ทีมผู้จัดทำใช้แหล่งข้อมูลเก็บรวบรวมจากทางไกล ในการประเมินความเสียหายที่เกิดกับโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดช่วงเดือนตุลาคม 2023 ถึงสิ้นเดือนมกราคม ปีนี้

—————

ภาพ: Reuters