อิสราเอลบุกโจมตีภาคกลาง-ใต้ของกาซา ในช่วง 24 ชม.มีผู้เสียชีวิต 165 ราย

อิสราเอล ยังคงปฏิบัติการบุกโจมตีภาคพื้นดินในพื้นที่ภาคกลางและใต้ของฉนวนกาซา พบในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 165 ราย และ บาดเจ็บอีก 250 คน 

ขบวนรถถังของอิสราเอล รุกคืบเข้าสู่ภาคกลางและใต้ของฉนวนกาซาเมื่อวานนี้ (30 ธันวาคม) ควบคู่กับการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง โดยการสู้รบมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองอัล-บูเรจ, นูเซรัต, มากาซีและคานยูนิส ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซา แถลงว่า การโจมตีกาซาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 165 ราย และบาดเจ็บอีก 250 คน

นอกจากนี้ยังพบว่า ประชากรเกือบทั้งหมดของกาซาราว 2.3 ล้านคน ต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน จากสถานการณ์สู้รบที่ยืดดเยื้อมานาน 12 สัปดาห์ จากข้อมูลล่าสุด พบว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต รวมอย่างน้อย 21,672 ราย บาดเจ็บมากกว่า 56,000 คน

ด้านแม่ชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่น กล่าวว่า ครอบครัวของเธอ พยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อมีชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ในค่ายผู้อพยพเมืองราฟาห์ ใกล้พรมแดนกับอียิปต์ โดยมีหลายครอบครัวต้องอดทนต่อความยากลำบาก เนื่องจากการปิดล้อมอย่างต่อเนื่องในภาคใต้ของกาซา

ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงปิดล้อมเกือบทั้งหมด ในการส่งอาหาร, ยารักษาโรคและเชื้อเพลิงเข้ากาซา และอนุญาตให้เข้าถึงความช่วยเหลือได้เฉพาะในภาคใต้ของกาซาเท่านั้น โดยอิสราเอลเริ่มสั่งพลเรือนชาวกาซาทั้งหมด อพยพลงใต้ตั้งแต่เดือนตุลาคม

ด้าน แอฟริกาใต้ ได้เริ่มกระบวนการยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก  กล่าวหาอิสราเอลละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 จากการโจมตีฉนวนกาซา โดยในการยื่นฟ้องต่อศาลโลก แอฟริกาใต้กล่าวหาว่า อิสราเอลละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ และได้ร้องขอต่อศาลให้ออกมาตรการชั่วคราวหรือระยะสั้น เพื่อสั่งให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา ซึ่งแอฟริกาใต้ชี้ว่า เป็นสิ่งจำเป็นในกรณีนี้เพื่อป้องกันอันตรายรุนแรงต่อสิทธิของชาวปาเลสไตน์

แฟ้มภาพ AFP