WHO เตือนสถานการณ์ในฉนวนกาซาแย่ลงทุกชั่วโมง

WHO เตือนสถานการณ์กาซาแย่ลงทุกชั่วโมง สหรัฐฯลงโทษอิสราเอล จะยกเลิกและระงับออกวีซ่าสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์ 

ริชาร์ด พีเพอร์คอร์น ตัวแทนองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ประจำอยู่ในฉนวนกาซา แถลงเมื่อวานนี้ (5 ธันวาคม) เตือนว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซาแย่ลงเป็นรายชั่วโมง หลังจากอิสราเอลหวนกลับมาทำศึกกับฮามาสรอบใหม่ตั้งแต่ 1 ธันวาคม

โดยล่าสุด พีเพอร์คอร์นระบุว่า อิสราเอลได้ถล่มทางอากาศทิ้งระเบิดในกาซาใต้อย่างหนักรอบเมืองข่าน ยูนิสและเมืองราฟาห์ WHO รู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับความอ่อนไหวของระบบสาธารณสุขในกาซา ในขณะที่ชาวกาซาในข่าน ยูนิส ต้องอพยพออกจากเมือง ลงไปทางใต้ลึกขึ้นอีก เพื่อหนีภัยโจมตีทิ้งระเบิดในข่าน ยูนิส

พีเพอร์คอร์นเปิดเผยด้วยว่า ทาง WHO ได้ปฏิบัติตามคำสั่งอิสราเอล ที่ให้ขนย้ายสิ่งของจำเป็นออกจากคลังเก็บในเมืองข่าน ยูนิส แล้ว โดยอิสราเอลแจ้งว่า ข่าน ยูนิสจะกลายเป็นสมรภูมิในอีกไม่กี่วันนี้

ด้าน เจมส์ เอลเดอร์ โฆษกองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ระบุว่า พื้นที่ในกาซาที่ทางอิสราเอลกำหนดว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยนั้น ไม่ได้ใกล้เคียงกับการมีสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่เพียงพอเลย และเตือนว่า การปราศจากสุขอนามัยและที่พักพิง จะสร้าง "พายุสมบูรณ์แบบ" ของการเกิดโรคระบาดในกาซาได้

ขณะที่ สหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงตำหนิอิสราเอล ยังทำไม่มากพอในการยอมให้ความช่วยเหลือและเชื้อเพลิงเข้าสู่กาซา พร้อมเปิดเผยด้วยว่า สหรัฐฯ จะยกเลิกวีซ่าและระงับคำขอวีซ่าใหม่ สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์ หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนในเวสต์แบงก์ รวมไปถึงจะยกเลิกและระงับวีซ่าเช่นเดียวกัน กับกลุ่มรุนแรงสุดขั้วชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์ด้วย

ภาพจาก AFP