กูรูชี้ทองคำสัปดาห์หน้าจ่อขยับขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯแย่กว่าคาด
"เบญจมา" มองราคาทองคำในสัปดาห์หน้าปรับขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร สหรัฐฯ ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ขณะที่การลดคิวอี-ขึ้นดอกเบี้ยเฟด -โอไมครอน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิด
น.ส.เบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองในสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 210,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 550,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%
สำหรับแนวโน้มภาพรวมคาดว่ายังผันผวน หลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เตรียมที่จะปรับลดคิวอีเร็วกว่าเดิม ทำให้มาตรการสิ้นสุดเร็วขึ้นในปีหน้า และส่งผลให้ทิศทางดอกเบี้ย ปรับขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมของเฟด ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ ว่าจะ ส่งสัญญาณ นโยบายการเงินอย่างไรบ้าง หากเฟดเร่งลดคิวอีและขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าเร็วกว่าคาดทำให้เกิดเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจะกดราคาทองปรับตัวลง
ขณะเดียวกันต้องติดตามความคืบหน้าการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอนว่า จะมีการระบาดรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และวัคซีนที่มีอยู่สามารถควบคุมได้หรือไม่ ซึ่งหากโควิดมีความรุนแรงต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้รอจังหวะเข้าซื้อหากย่อตัวมองแนวรับแรกที่ 1,751 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งเฉลี่ยอยู่ที่ 28,150 บาท คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนวรับถัดไปที่ 1,705 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งเฉลี่ยอยู่ที่ 27,450 บาท
ส่วนแนวต้านแรก 1,808 ราคาทองแท่งในประเทศจะอยู่ที่ 29,100 บาท แต่ถ้าผ่านไปได้แนวต้านต่อไปอยู่ที่ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อตอนส่งผลให้ทองคำแท่งเฉลี่ยอยู่ที่ 29,500 บาท
ที่มา :
ภาพประกอบ :