น้ำมันดิบ ปิดลบ 2.40 ดอลลาร์ รับแรงกดดันสหรัฐฯ ระบายน้ำมันจากคลังสำรอง
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงกดดันจากความกังวลที่รัฐบาลสหรัฐฯอาจระบายน้ำมันออกจากคลัง สกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
วันนี้ (18 พ.ย.64) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 80 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่วา รัฐบาลสหรัฐฯอาจระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 80.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564
นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตือนว่า ตลาดน้ำมันมีแนวโน้มเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดในเดือนธ.ค. และภาวะดังกล่าวจะดำเนินไปจนถึงปีหน้า
ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลงในอนาคต เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นได้ดึงดูดให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ
สำหรับข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 800,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ภาพจาก AFP