หุ้นไทยปิดลบ 2.67 จุด เหตุนลท.กังวลเงินเฟ้อเฟดลดวงเงินคิวอี
ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,640.97 จุด ปรับลดลง 2.67 จุด หรือ0.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท เหตุนลท.กังวลเงินเฟ้อเฟดลดวงเงินคิวอี กลบกระแสหุ้นเปิดเมือง
วันนี้( 14 ต.ค.64 ) หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,640.97 จุด ปรับลดลง 2.67 จุด หรือ0.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท โดยดัชนีผันผวนในแดนบวกและลบ เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐลดวงเงินคิวอี แม้ในประเทศจะมีปัจจัยปรับลดเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 22.00 – 04.00น. เป็น 23.00 – 03.00 น. เพื่อให้สอดรับกับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ในระยะนี้คาดว่านักลงทุนหันมาจับตาประเด็นผลประกอบการไตรมาส3 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่เริ่มทยอยประกาศไปบ้างแล้ว รวมทั้งการเริ่มเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าส่งผลให้หุ้นภายในประเทศ รวมไปถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศปรับตัวขึ้น กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำถือลงทุนและเน้นหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ กลุ่มธนาคาร พลังงาน โรงกลั่น ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะได้อานิสงส์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจช่วงไตรมาส1และปีหน้า
ด้านบล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ วอลุ่มซื้อขายไม่มากนัก หลังจากรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้สูงขึ้น และผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ sentiment เสียไป โดยเฉพาะกลุ่มเปิดเมือง ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน ส่วนผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้เป็นไปตามคาดเดินหน้าขั้นตอนเปิดเมือง ทำให้ยังเล่นกลุ่ม Reopening ได้บ้าง อาทิ AOT, ERW, CPALL, CPN, CRC มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพราะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศโดยตรง
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบ หลังจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คาดว่าจะเริ่มกลาง พ.ย.นี้โดยทยอยลดลงเดือนละ 1.2-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอัตราดอกเบี้ยมีความเสี่ยงปรับขึ้นเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ในไตรมาส 4/65
รวมถึงการประกาศงบการเงินในไตรมาส 3/64 ที่กำลังทยอยประกาศคาดว่าหลาย sector จะออกมาไม่ดี โดยวันนี้ TISCO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ต่ำกว่าทั้ง QoQ และ YoY ทั้งนี้ แนะ selective buy เพราะแม้บ้านเราจะเปิดประเทศแต่ต่างประเทศก็ยังไม่เปิดให้มาเที่ยวไทย เช่น จีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดของไทย
โดยแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดแกว่งตัว Sideway ให้แนวรับที่ 1,630 จุด แนวต้านที่ 1,655 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,633.33 ล้านบาท ปิดที่ 67.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
2. U มูลค่าการซื้อขาย 3,371.56 ล้านบาท ปิดที่ 1.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.23 บาท
3. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,249.29 ล้านบาท ปิดที่ 4.24 บาท ลดลง 0.06 บาท
ที่มา : ตลท.
ภาพประกอบ : AFP