ต่างชาติจ่ายปันผลฤดูกาล2.5หมื่นล้าน กดเงินบาทอ่อนรั้งอันดับ 2

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.15-31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  โดยเงินบาทอาจไล่ตามสกุลเงินตลาดเกิดใหม่และสกุลเงินหลักที่แข็งค่าไปค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ได้บ้าง

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามคือทิศทางค่าเงินหยวน ข้อมูลภาคบริการและการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ ที่ตลาดมองว่าจะอยู่ที่ 6.6  แสนตำแหน่ง ซึ่งถ้าข้อมูลดีเกินคาดอย่างมีนัยสำคัญจะส่งผลกระทบต่อบอนด์ยิลด์และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า เพราะตลาดจะคาดว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจใกล้เริ่มถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  ด้านปัจจัยในประเทศยังอยู่ที่ทิศทางการจัดหาและกระจายวัคซีนนอกจากนี้ในช่วงวันที่ 5-27 พ.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 3.31 หมื่นล้านบาท  และพันธบัตรไทย  4.1 พันล้านบาท  

สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.-28 พ.ค. พบว่า ริงกิต-มาเลเซีย อ่อนค่าสุด 1.16  % รองลงมาเป็นบาท-ไทย 0.45% วอน-เกาหลีใต้ 0.21% ส่วนสกุลเงินที่แข็งค่าคือรูปี-อินเดีย 2.07% หยวน-จีน 1.67%  รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.05% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.76% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.56% ริงกิต เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.51% ดอง-เวียดนาม 0.02%

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เงินบาทอ่อนค่าเป็นผลมาจากเงินปันผลจ่ายออกตามฤดูกาลเดือน พ.ค. ประมาณ 2.5 หมื่นล้าน และเศรษฐกิจไทยฟื้นช้า แม้ส่งออกสดใสตามวัฎจักรการค้าโลก และจังหวะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่แน่นอนสูง