TNN online วัคซีนโควิด-19 ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทยหนุนจีดีพีปี 64-65 โต 3.0-5.7%

TNN ONLINE

Wealth

วัคซีนโควิด-19 ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทยหนุนจีดีพีปี 64-65 โต 3.0-5.7%

วัคซีนโควิด-19 ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทยหนุนจีดีพีปี 64-65 โต 3.0-5.7%

ธนาคารแห่งประเทศไทย มองหากกระจายฉีดวัคซีนสกัดโควิด-19ได้เร็ว จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เศรษฐกิจ ส่งผลเชิงบวก หนุนจีดีพีปี 64-65 โต 3.0-5.7%

วันนี้( 15 พ.ค.64) น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศระลอก 3 นี้มีความรุนแรงกว่าระลอก 1 และ 2 มาก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิต แต่ในแง่ผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้นยังไม่มากเท่ากับการระบาดในระลอกแรก เพราะมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในระลอก 3 ด้วยการปิดกิจการหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่เข้มข้นเท่ากับระลอกแรก

โดยเศรษฐกิจในปัจจุบันของประเทศคู่ค้าสามารถเติบโตได้ดีขึ้น รัฐบาลแต่ละประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลดีต่อเนื่องมาถึงการส่งออกของไทยด้วย ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงไปในในระลอกนี้ ไม่ได้ลดลงไปมากเท่ากับระลอกแรก เพราะปัจจุบันแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยอยู่แล้ว ดังนั้นภาพรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิดในระลอก 3 จึงไม่มากเท่ากับระลอกแรก สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับเริ่มมีผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ที่ระบาดในระลอกนี้แพร่กระจายเป็นวงกว้างได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่อาจจะช้าลงกว่าเดิม ดังนั้นการได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศให้ได้มากและเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ธปท.ได้จัดทำสมมติฐานการฉีดวัคซีนต้านโควิดที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงปี 2564-2565 ไว้ 3 กรณีดังนี้ กรณีแรก หากสามารถจัดหาและกระจายวัคซีนได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ คาดว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ปี 2564 มีโอกาสขยายตัวได้ 2% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 1.2 ล้านคน ส่วนในปี 2565 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 4.7% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15 ล้านคน

 ขณะที่กรณีที่สอง หากจัดหาและกระจายวัคซีนได้ 64.5 ล้านโดสภายในปีนี้ คาดว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ปี 2564 มีโอกาสขยายตัวได้ 1.5% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 1 ล้านคน ส่วนในปี 2565 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 2.8% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคน

 ส่วนกรณีที่สาม หากจัดหาและกระจายวัคซีนได้น้อยกว่า 64.5 ล้านโดสภายในปีนี้ คาดว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ปี 64 มีโอกาสขยายตัวได้ 1% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 8 แสนคน ส่วนในปี 2565 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 1.1% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคน

สำหรับสมมติฐานในกรณีดังกล่าวยังไม่รวมมาตรการต่างๆ จากภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้กับประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิดในปีนี้ และตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่การปรับประมาณการเศรษฐกิจจาก ธปท. ซึ่งการปรับประมาณเศรษฐกิจไทยในรอบของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีขึ้นอีกครั้งในเดือนมิ.ย.64 โดยปัจจัยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยไทยออกจากวิกฤตด้านสาธารณสุข และการเปิดประเทศ โดยหากฉีดวัคซีนได้เร็วจะช่วยหนุนการเติบโตจีดีพีในปี 2564-2565 ขยายตัว 3.0-5.7%

ทั้งนี้ จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีจะช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าให้ขยายตัวสูงขึ้น และพยุงให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลงไม่มากในสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกันการส่งออกของไทยที่แม้จะเริ่มขยายตัวดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อเนื่องมาสู่ตลาดแรงงานในวงที่จำกัด เนื่องจากยังไม่เห็นการจ้างงานรายใหม่เพิ่มขึ้นมากในภาคการผลิต มีเพียงชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นผลจากโครงสร้างของตลาดแรงงานที่การจ้างงานในภาคการส่งออกมีสัดส่วนไม่ได้สูงมาก และในระยะข้างหน้า คาดว่าการส่งออกจะส่งผลดีต่อการจ้างงานในภาคการผลิตได้บ้าง

วัคซีนโควิด-19 ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทยหนุนจีดีพีปี 64-65 โต 3.0-5.7%

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง