ป.ป.ส.ขายทอดตลาดทรัพย์สินรวมกว่า 30 ล้าน-ปอร์เช่เริ่มที่ 7.7ล้าน

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดทั่วประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับกรมบังคับคดี จัดขึ้นเพื่อนำทรัพย์สินมาทำการขายทอดตลาดกว่า 800 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และอาวุธปืน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ณ อาคาร 3 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1-9

 

โดยมีการประมูลที่น่าสนใจได้แก่รถยนต์ยี่ห้อ ปอร์เช่ ทะเบียน ส-4995 กรุงเทพมหานคร ราคาตั้งต้น 7,700,000 บาท และรถยนต์ยี่ห้อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีขาว ทะเบียน 4กฬ-2700 กรุงเทพมหานคร ราคาตั้งต้น 980,000 บาท ราคาประมูลสิ้นสุดที่ 1,240,000 บาท

 

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า การขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด เป็นมาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย ถือเป็นการดำเนินการต่อทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติด โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด พ.ศ. 2534 เป็นเครื่องมือหลักในการจัดการกับทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดและกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรทางการเงิน ซึ่งทรัพย์สินที่นำมาขายทอดตลาดรวบรวมได้จากการยึดอายัดทรัพย์สินจากหลาย ๆ คดี ซึ่งภายหลังจากคดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทรัพย์สิน คดีจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล เพื่อมีคำสั่งริบทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดต่อไป นอกจากนี้ยังมีกระบวนการตามกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับโทษปรับคดียาเสพติดตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ในอันที่จะลงโทษทางด้านทรัพย์สินกับนักค้ายาเสพติดอีกมาตรการหนึ่งด้วย

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า การขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายและระเบียบกำหนด เงินที่ได้จะนำเข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อนำมาใช้ในการสนับสนุนงบประมาณในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และถือเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับรัฐบาล โดยข้อมูลนับตั้งแต่มีการประกาศใช้ในปี 2535 มีการยึดอายัดทรัพย์สินไปแล้ว จำนวน 42,274 คดี มูลค่าของทรัพย์สินที่ยึด หรืออายัด 25,015 ล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2552-2562 มีทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดและตกเป็นของกองทุนฯ จำนวน 2,105,078,260 บาท นำมาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งการป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู รวมถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนเป็นเงินสินบนรางวัลให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส พร้อมกับยืนยันว่าหากมีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมาประมูลทรัพย์สินกลับไป เจ้าหน้าที่ก็มีมาตรการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์กลับมาอีก

เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand