คนไทย 93% เน้นฝากออมทรัพย์ วัยเกษียณชอบฝากประจำ
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย ห่วงพฤติกรรมการออมคนไทย หลังพบระดับการออมในบัญชีเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ เน้นออมระยะสั้นใช้จ่ายฉุกเฉินไม่เน้นหลังเกษียณ
วันนี้ (23 ธ.ค.62) น.ส.อัจจนา ล่ำซำ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยด้านเครือข่ายวิจัยและการสื่อสาร สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยผลการศึกษาร่วมกับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ถึงพฤติกรรมการออมของคนไทยผ่านข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารกว่า 80 ล้านบัญชี พบว่า พฤติกรรมการออมของคนไทยมีความน่าเป็นห่วง ทั้งการกระจุกตัวของเงินฝาก ระดับการออมในบัญชีเงินฝากที่น้อย และการออมในบัญชีที่ให้ผลตอบแทนต่ำ
โดยเงินฝากมีการกระจุกตัวสูงในผู้ฝากรายใหญ่ที่มีสัดส่วน 10% (หรือคิดเป็นประมาณ 3.8 ล้านคน) ของจำนวนผู้ฝากเงินในระบบธนาคารพาณิชย์เกือบ 38 ล้านคน มียอดเงินฝากรวมกันถึง 93% ของจำนวนเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด และมักมีการกระจุกตัวอยู่ในชุมชนเมืองของจังหวัดขนาดใหญ่ เช่น กทม.และปริมณฑล, ชลบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา และสงขลา เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้คนไทยจะมีการเปิดบัญชีเงินฝากกันอย่างแพร่หลาย แต่กลับพบว่าจำนวนเงินในบัญชียังมีไม่มากนัก โดยผู้ฝากเงินมากกว่าครึ่ง หรือ 56.04% มีเงินในบัญชีไม่ถึง 3,142 บาท ขณะที่ผู้ฝากเงินเพียง 0.2% มีเงินในบัญชีมากกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในผลการศึกษายังพบว่า ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ถึง 88% จะฝากเงินไว้กับบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น รวมทั้งนิยมฝากกับธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่เป็นหลัก ขณะที่ครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ฝากเงินจะมีเพียง 1 บัญชีเงินฝาก และใช้เพียง 1 สถาบันการเงินเท่านั้น ซึ่งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ยังเป็นบัญชีมหาชนที่ใช้โดยคนทุกกลุ่มทุกวัย
ขณะที่บัญชีเงินฝากประจำจะพบมากในกลุ่มวัยหลังเกษียณ รวมทั้งเงินส่วนใหญ่ของผู้ฝากทุกกลุ่ม (ทุกวัย ทุกเพศ ทุกภูมิภาค) จะฝากอยู่ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เฉลี่ยประมาณ 93.3% ของเงินในพอร์ตผู้ฝาก มีเพียง 6.3% ที่มีเงินอยู่ในบัญชีเงินฝากประจำ
ภาพโดย Nattanan Kanchanaprat จาก Pixabay
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand