TNN online กรมสรรพสามิตปัดลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเอื้อโลว์คอสท์

TNN ONLINE

Wealth

กรมสรรพสามิตปัดลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเอื้อโลว์คอสท์

กรมสรรพสามิตปัดลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเอื้อโลว์คอสท์

กรมสรรพสามิตปัดลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน ยันเก็บต่ำกว่าน้ำมันรถยนต์ถึง 3-4 เท่าอยู่แล้ว พร้อมไม่หวั่นหากโลว์คอสท์กระทบหนักถึงขั้นหยุดบิน

วันนี้ (16พ.ย.62) นายอุตตมา สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงข้อเรียกร้องของสายการบินโลว์คอสท์แอร์เลน์ที่เสนอให้กรมสรรพสามิตลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันไอพ่น จากปัจจุบันอยู่ที่4.726บาทต่อลิตร เนื่องจากธุรกิจการบินขาดทุน โดยหากไม่มีการปรับลดภาษีน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนของสายการบินราว 30 -35% อาจทำให้สายการบินโลว์คอสท์บางรายต้องหยุดบินในปีหน้าจากภาระขาดทุนนั้นมองว่าเรื่องนี้คงต้องหารือกับกรมสรรพสามิตซึ่งจะต้องนำทุกปัจจัยมาพิจารณาอย่างรอบครอบ

ด้านนายพชร อนันต์ศิลป์  อธิบดีกรมสรรพสามิต  ระบุว่าปัจจุบันภาษีน้ำมันเครื่องบิน มีอัตราที่ต่ำกว่าภาษีสรรพสามิตรถยนต์มากถึง 3-4 เท่าตัวอยู่แล้ว เนื่องจากภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน เสียภาษีเฉพาะภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น

ส่วนภาษีน้ำมันรถยนต์ นอกจากเสียภาษีสองตัวแล้วยังต้องเสียภาษีให้กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และภาษีมหาดไทยอีกด้วย  ทั้งนี้ปัจจุบันกรมสรรพสมิต เก็บภาษีน้ำมันเครื่องบินได้เพียงปีละ 3 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากมีนโยบายลดภาษีสรรพสามิตให้สายการบินโลว์คอสท์แล้ว ไม่มีการรับประกันได้ว่าสายการบินจะลดราคาค่าตั๋วให้กับผู้โดยสารหรือไม่  ส่วนหากไม่มีการลดภาษีแล้วสายการบินบางแห่งจะหยุดบินนั้นได้สอบถามไปยังการบินไทยแล้วซึ่งการบินไทยพร้อมจะบินทดแทนให้

ขณะที่ปัญหาของอุตสาหกรรมการบินในขณะนี้ถือว่ารุนแรงขึ้น สะท้อนจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ทั้ง 4 สายการบินประกอบด้วยบมจ.การบินไทย บมจ.การบินกรุงเทพ  บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บมจ.สายการบินนกแอร์  ที่ขาดทุนรวมกันกว่า 1.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนที่ขาดทุนรวม 5.04 พันล้านบาท  เคลื่อนไหวไปทิศทางเดียวกับราคาหุ้นของการบินไทยที่ปรับลดลงไปต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่หุ้นอีก 3 บริษัทต่างปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าไตรมาส 4 ก็ยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่อง

การที่อุตสาหกรรมการบินของไทยชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวประเทศไทยสูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเปลี่ยนจุดหมายการเดินทาง และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงของสายการบิน

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง