TNN online หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy

หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy

หุ้นไทยวันนี้ เน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566

ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)ระบุติดตามการส่งสัญญาณจากการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน ทำให้ตลาดจะให้ความสำคัญกับการส่งสัญญาณของเฟดในการประชุม 3 พ.ค. ทั้งนี้เราคาดเฟด ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% และหากส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ย โดยไม่สร้างความกังวลให้ตลาดโดยการกล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆมากเกินไป (อาทิ วิกฤติภาคการเงิน หรือเศรษฐกิจถดถอย) เรามองนักลงทุนจะตอบรับเชิงบวกต่อการหยุดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงและหุ้น  

ธีมการลงทุนในไตรมาส 2/66 
1) เงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด บวกต่อ กลุ่มค้าปลีก 
2) ดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุด บวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าและสื่อสาร 
3) การย้ายฐานการผลิต บวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และ
4) ผลประกอบการแข็งแกร่ง หุ้นท่องเที่ยวและเปิดเมือง ปรับลดลงจนหลายตัวกลับมาน่าสนใจ

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังเน้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและค้าปลีก และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ผ่านช่วงที่ผลประกอบการดีที่สุดไปแล้ว (โดยเฉพาะที่ดีสุดไปแล้วจากช่วง WFH) สำหรับกลุ่มโรงแรมที่ปรับลดลงมามาก เรามองใกล้ฟื้นจากผลประกอบการที่จะออกมาดี และการท่องเที่ยวที่จะยังเป็นพระเอกผลักดันเศรษฐกิจในปีนี้

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดตลาด “Sideways/Up” มองโครงสร้างหุ้นที่กดตลาดวานนี้จะสร้างความผันผวนน้อยลง นำโดย DELTA ที่มีจิตวิทยาบวกการแตกพาร์ที่เริ่มมีผลเป็นวันแรก ขณะที่กลุ่มพลังงานประเมินจะนิ่งขึ้น อิงภาพราคาน้ำมันที่ทรงตัว มองสะท้อนภาพ GDP สหรัฐฯที่ยังบวกได้ +1.1%q-q ขณะที่องค์ประกอบหลักการบริโภคยังเติบโตดี +3.7% มองกลุ่มหนุนตลาด คือ กลุ่มอิงภายใน (ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, สื่อสาร, เครื่องดื่ม) ที่คาดรายงานกำไรเด่นและดีต่อเนื่องในระยะถัดไป เชื่อว่าจะเคลื่อนไหวได้ดีในช่วงก่อนเข้าสู่ Earnings Season และกลุ่มที่ปรับฐานลึกในช่วง SET ปรับฐาน ขณะที่พื้นฐานยังแกร่ง (SET200 Rebound Plays)  ส่วนระยะกลาง เชื่อว่า SET ยังมีความคาดหวังเชิงบวกจากการนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนการเลือกตั้ง  และภาพเดินหน้าสู่เลือกตั้งใหญ่ระยะถัดไป จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้  อิง ERP เฉลี่ย 3.35%  โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ

1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AOT, AMATA,  WHA, CENTEL, ERW, SISB, SIRI)  
2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO,  CPALL, BJC, ADVANC,  AMATA,  BBL, KBANK, SCB)
3) Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC, SAWAD) 
4) Summer Play (OSP,  ICHI, SAPPE,  HMPRO, CRC) 
5) หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆยืนสูง (KSL) และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไร 1Q23F เด่นหรือเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวและระยะถัดไปมีแนวโน้มเด่น อาทิ ICHI, CPALL, TOA, SC, MAKRO, ADVANC, GPSC, OSP, CRC , OR, SCGP
6) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Anti-Commodities (GULF, GPSC) 
KCS Best Picks: JMT, OSP, SCGP

ข่าวแนะนำ