TNN online หุ้นไทยวันนี้ I TNN WEALTH 22 ก.พ. 66

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ I TNN WEALTH 22 ก.พ. 66

หุ้นไทยวันนี้ I TNN WEALTH 22 ก.พ. 66

หุ้นไทยวันนี้ คาดข่าวเลือกตั้ง เป็นปัจจัยผลักดันหุ้นบริโภคภายในประเทศ

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิมของกลต.ในวันที่ 7 พ.ค. หรืออาจล่าช้าไปถึง 21 พ.ค. หากการยุบสภาเกิดขึ้นในวันที่ 22 มี.ค. (ก่อนการหมดวาระส.ส.เพียง 1 วัน) เป็นปัจจัยหนุนช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่เป็นความเสี่ยงหลังวันเลือกตั้ง เราประเมินว่าความเชื่อมั่นผู้บนิโภค และความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลงจะเป็นปัจจัยบวกต่อการจับจ่ายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเราประเมินการเลือกตั้งจะพลิกกลับเป็นปัจจัยเสี่ยงหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ เนื่องจากขั้นตอนรับรองการเลือกตั้งที่ยาวนาน (คาดประกาศผลได้ต้น ก.ค.) รวมถึงความซับซ้อนของกระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรี (คาดว่าสิ้นเดือน ก.ค.) และการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (คาดว่าต้น ส.ค.) ผลของกระบวนการที่ยาวนานทำให้มีความเสี่ยงที่การใช้จ่ายภาครัฐอาจล่าช้าซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ได้ เรามองกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ คือ ค้าปลีก, สื่อ, อสังหาริมทรัพย์, นิคมอุตสาหกรรม และสื่อสาร หุ้นเด่นสำหรับการเลือกตั้ง เราเลือก ADVANC, CPALL, MAJOR, OR, TIDLOR, WHA

สำหรับภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังผันผวนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติและการรายงานงบรายตัวในระยะสั้น การเก็งกำไรระยะสั้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ กลุ่มเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย, ค้าปลีก (ที่ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวกลับมา), ปิโตรเคมี, การเงิน, โภคภัณฑ์ (เฉพาะเหล็กและน้ำตาล) และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น 

หุ้นแนะนำ: MAKRO*, ROJNA*, MAJOR*, SAMART* แนวรับ: 1,635-1,650 / แนวต้าน : 1,659 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%


ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาด “Sideways/Up” ต้าน 1675/1681จุด รับ 1660/1654จุด สินทรัพย์เสี่ยงโลกผันผวน หลัง PMI ภาคผลิตและบริการสหรัฐฯ ก.พ. 23 ดีกว่าตลาดคาด สร้างความกังวลต่อเงินเฟ้อที่อาจไม่ลดลงเร็วดังหวัง ทำให้ Fed อาจปรับใช้ดอกเบี้ยสูงนานขึ้น ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับตัวสู่ระดับ 3.95% สูงสุดในรอบ 3 เดือน และ Dollar Index แข็งค่าสู่ 104.1 +/- จุด ถ่วงค่าเงินบาทอ่อนค่า 34.6 +/- บาท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า SET จะผันผวนไม่มาก ภายใต้โครงสร้างหุ้นไทยที่ภาพปี 2023F ยังเป็นบวก เศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจนจากการนำของภาคท่องเที่ยวที่เร่งขึ้น   หนุน GDP ไทยเติบโต 4% ปีนี้ และ 3.9% ปีหน้า ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ผสาน ภาพบวกเฉพาะตัวล่าสุดไทยเข้าใกล้ “เลือกตั้งใหญ่” ลุ้นความคาดหวังเชิงบวกช่วยเร่งการฟื้นตัวเศรษฐกิจระยะกลางต่อเนื่อง วันนี้ แนะนำ: AMATA, ERW, GULF

ข่าวแนะนำ