“ปิยะภัทร์ สุวรรณสังข์” ชูกลยุทธ์ M&A ปั้นธุรกิจพลังงาน PSTC เติบโต

“ปิยะภัทร์ สุวรรณสังข์” ชูกลยุทธ์

M&A ปั้นธุรกิจพลังงาน PSTC เติบโต 

ธุรกิจพลังงานกับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานแบบดั่งเดิม ไปสู่พลังงานรูปแบบใหม่ ถือเป็นความท้าทายของบรรดาผู้ประกอบการ หากแต่สำหรับ “ปิยะภัทร์ สุวรรณสังข์” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ความท้าทายกลับไม่ใช่เรื่องนั่น

เหตุเพราะธุรกิจของ PSTC เป็นธุรกิจในฝั่งพลังงานสีเขียวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ รวมถึงธุรกิจจำหน่ายและขนส่งผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง LPG, LNG และ NGV 

“ปิยะภัทร์” เล่าว่า ธุรกิจของ PSCT ขณะนี้ยังมีตัวเลขติดลบ เนื่องจากการตั้งสำรองด้อยค่าของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าไบโอก๊าซ ไบโอแมส ที่ผู้บริหารชุดเดิมลงทุนไว้ เมื่อเข้ามานั่งบริหารตรงนี้ ก็ต้องเคลีย์ปัญหาเดิมให้จบ เพื่อทำให้บริษัทเทิร์นอะราวด์ และเติบโตยั่งยืน มีกำไร ซึ่งขณะนี้ เคลียร์ปัญหาเก่าได้แทบจะ 100% แล้ว ต่อจากนี้คือการเดินหน้าธุรกิจ และมีการเติบโตต่อเนื่อง 

แม่ทัพหญิง PSTC มีโฟกัสที่ชัดเจน จากธุรกิจทั้งหมด 5 กลุ่มหลัก คือ 1. โรงไฟฟ้า ซึ่งโฟกัสไปที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในรูปแบบโซล่าฟาร์ม และ Solar-Corporate PPA หรือ ธุรกิจที่ทำการลงทุนผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ตามความต้องการของเจ้าของสถานที่ที่ว่าจ้าง 2. ธุรกิจ Oil & Gas จำหน่ายก๊าซ LPG ขายภาคยานยนต์ อุตสาหกรรม และครัวเรือน 3. กลุ่มธุรกิจ Liquefied Natural Gas (LNG) หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลว ขายให้อุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อ 4. ธุรกิจ EPC บริการงานออกแบบทางด้านวิศวกรรมครอบคลุมทั้งโรงไฟฟ้าและ Oil & Gas และ 5. ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ จากสระบุรี ถึงขอนแก่น เพื่อกระจายไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปถึง สปป.ลาว

3 ปีต่อจากนี้ เป้าหมายของของ PSTC คือ การโฟกัสไปที่ธุรกิจพลังงาน เพราะเป็นธุรกิจที่ PSTC มีความเชี่ยวชาญ โดยให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มธุรกิจ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเริ่มขยายทำโซล่ารูฟท็อปให้ภาคเอกชน มีการจำหน่ายขายไฟในรูปแบบของ Private PPA ธุรกิจกำลังเติบโตเรื่อยๆ 

อีกกลุ่มธุรกิจที่โฟกัส คือ กลุ่มธุรกิจ LNG นำเข้ามาจำหน่ายให้โรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อ ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเตา ด้วยบริการครบลูป ตั้งแต่การออกแบบสถานี LNG การซัพพลาย โดยบริษัทขนส่งและเอ็นจิเนียร์ของ PSTC เอง โดยกลุ่มลูกค้าที่เน้นเป็นพิเศษคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีการทำสัญญาระยะยาว 5-7 ปี ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจ คือ การขนส่งน้ำมันทางท่อ ที่กำลังจะทำเชิงพาณิชย์เร็วๆ นี้ ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้จะเป็นตัวสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯ ในอนาคต เพราะถือเป็นอินฟราสตรัคเจอร์ที่สำคัญของประเทศ และขณะนี้ไทยมีท่อน้ำมันเพียงไม่กี่ท่อ และท่อที่ไปตะวันออกเฉียงเหนือก็มีของ PSTC เท่านั้น 

“ปิยะภัทร์” ย้ำว่า PSTC มีแผนการทำตลาดเชิงรุก ขยายกลุ่มลูกค้า Private PPA ให้มากขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าโรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนกลุ่มลูกค้า LNG ก็จะขยายให้มากขึ้น 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสสูง ที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ประจำ (recurring income ) สม่ำเสมอ ด้วยสัญญาระยะยาวกับคู่ค้า

ส่วนการขยายธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต โดยหลักๆ ยังโฟกัสที่ธุรกิจพลังงานเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสตัวเอง อย่างเช่น เทรนด์ของตลาดอีวี ขณะนี้ก็เริ่มศึกษาตลาดแล้ว เพราะเป็นตลาดที่น่าสนใจ และหากมีจังหวะที่ดี มีความเสี่ยงที่คุมกับการลงทุน ถ้าให้ผลตอบแทนที่ดี ก็พร้อมลงทุนแน่นอน 

"ปิยะภัทร์" เล่าย้อนหลังว่า เธอเติบโตมาจากการเป็นลูกจ้างในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ด้วยความที่เป็นคนพร้อมเรียนรู้ และเป็นคนคิดใหญ่ เมื่อมีจังหวะ จึงเปิดบริษัทของตัวเอง และชวนพาร์ทเนอร์เปิดบริษัทด้านพลังงาน ชื่อ บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด จำหน่ายก๊าซ LPG และ LNG พร้อมทั้งทำธุรกิจให้บริการด้าน EPC ในฟิวด์ออยแอนด์ก๊าซ จนได้รับโอกาสเข้ามาสู่ธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อ ซึ่งเป็นโปรเจคใหญ่ระดับประเทศ ทำให้มีการหาพาร์ทเนอร์เพิ่ม ทำโปรเจคใหญ่จนเป็นรูปเป็นร่าง ภายใต้ PSTC

จากเส้นทางธูรกิจ ทำให้ "ปิยะภัทร์" มองว่า การเติบโตของธุรกิจในยุคนี้ การทำ M&A (Mergers and Acquisitions) เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งเธอเองก็ผลักดันธุรกิจให้เติบโตมาจากการทำ M&A เช่นกัน อนาคตไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจเดิม หรือธุรกิจใหม่ หากสามารถหาพันธมิตรมาร่วมลงทุน หรือถือหุ้นและเรียนรู้ร่วมกันได้ PSTC ก็พร้อมทำ M&A เพิ่มการเติบโตในก้าวต่อๆ ไปแน่อน